ถ้าพูดถึง grammar หนึ่งในไม่กี่เรื่องที่คนส่วนใหญ่นึกถึง จะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เรื่อง Tense ทั้ง 12 ที่มีช่วงเวลาทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาก็ยังมีทั้งเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น เรื่องยังไม่เกิดขึ้น หรือเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วแต่ส่งผลถึงปัจจุบัน ยิ่งทำให้น้อง ๆ สับสนเข้าไปใหญ่
ความสับสนเหล่านี้ อาจทำให้น้อง ๆ รู้สึกว่า Tense เข้าใจยาก จำยาก ใช้งานไม่เป็น น้อง ๆ ก็อาจจะเลือกปล่อยผ่านไป คิดว่าทิ้งพาร์ตเดียวแล้วค่อยเก็บพาร์ตอื่น แต่ถ้าน้องเข้าใจหลักของ grammar แล้ว ไม่ว่าประโยคจะยาวหรือยากแค่ไหน น้อง ๆ ก็สามารถมองโครงสร้างประโยคได้อย่างทะลุปรุโร่ง ไม่โดนโจทย์หลอกแน่นอน
หลักการ Tense ที่น้อง ม.ต้น ต้องรู้
Tense เป็นไวยากรณ์พื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการสื่อสารทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฟัง พูด อ่าน และเขียน เพราะฉะนั้น น้อง ม.ต้น ยังมีเวลาเรียนรู้พื้นฐานของ grammar เริ่มเรียนแบบเข้าใจ ลองทำโจทย์บ่อย ๆ เพื่อให้แม่นทุกพาร์ต แค่น้องเข้าใจ tense พาร์ตอื่นก็ง่ายขึ้นไปด้วย เพราะแต่ละพาร์ตก็ต้องเริ่มจากพื้นฐานที่ควรรู้ก่อน ถึงจะไปต่อในพาร์ตที่ยากขึ้นได้
Tense
คือ การผันคำกริยาไปในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อระบุว่าประโยคนั้นกำลังพูดถึงช่วงเวลาไหน
โดยจะแบ่งเวลาเป็น 3 ช่วง ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาจะแบ่งออกเป็นอีก 4 ช่วง จึงรวมกันเป็น 12 Tense
- Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
- Past Tense (อดีตกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต
- Future Tense (อนาคตกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต
บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + V.1 (-s, -es for Singular Subject).
ประโยคคำถาม :
- V. to do: (Question Word+) do/does + S. + V.inf ?
- V. to be: (Question Word+) is/am/are + S. + Complement?
ประโยคปฏิเสธ :
- V. to do: S + do/does + not + V.inf.
- V. to be: S + is/am/are + not + Complement.
Passive Voice
- S. + V. to be (Present simple) + V.3 [+ by + ผู้กระทำ (ถ้ามี)]
บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ และเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + is, am, are (ผันตาม S.) + V.ing.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) is/am/are + S. + V.ing?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + is/am/are + not + V.ing.
Passive Voice :
- S + V. to be (is/am/are) + being + V.3 [+ by + ผู้กระทำ (ถ้ามี)]
บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว หรือเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + has/have + V.3.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) has/have + S. + V.3?
- (Question Word+) has/have + S. + been + Complement?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + has/have + not + V.3.
Passive Voice :
- S. + has/have + been + V.3 [+ by + ผู้กระทำ (ถ้ามี)].
ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และในขณะที่พูดเหตุการณ์นั้นก็ยังไม่จบ ยังดำเนินอยู่ (เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง)
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S + has/have + been + V.ing
ประโยคคำถาม :
- Has/Have + S. + been + V.ing.
ประโยคปฏิเสธ :
- S + has/have + not + been + V.ing
ใช้พูดถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้นแล้วจบไปแล้ว เป็นเหตุการณ์สั้นๆ ที่ระบุช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ด้วย
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + V.2.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) did + S. + V.inf ?
- (Question Word+) was/were + S. + Complement?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + did + not + V.inf.
Passive Voice
- S. + was/were + V.3 [+ by + ผู้กระทำ (ถ้ามี)].
บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา
- โดยเหตุการณ์แรกนั้น คือ past continuous tense ส่วนเหตุการณ์ที่สองที่แทรกมานั้น เป็น past simple tense
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + was/were + V.ing.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) was/were + S. + V.ing?
ประโยคปฏิเสธ :
- S +was/were + not + V.ing.
Passive Voice :
- S + was/were + being + V.3 [+ by + ผู้กระทำ (ถ้ามี)].
บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา
- โดยเหตุการณ์แรกนั้น คือ past continuous tense ส่วนเหตุการณ์ที่สองที่แทรกมานั้น เป็น past simple tense
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + had + V.3.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) had + S. + V.3?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + had + not + V.3.
Passive Voice :
- S. + had + been + V.3 [+ by + ผู้กระทำ (ถ้ามี)].
ใช้เหมือน Past perfect tense แต่จะเน้นว่าเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นและดำเนินมาอย่างต่อเนื่องแล้วจบลงแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่สองตามมา
- เหตุการณ์แรกนั้น คือ past perfect continuous tense ส่วนเหตุการณ์ที่สองที่เกิดขึ้นตามนั้น เป็น past simple tense
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S + had + been + V.ing
ประโยคคำถาม :
- Had + S. + been + V.ing.
ประโยคปฏิเสธ :
- S + had + not + been + V.ing
คาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + will + V.inf.
- S + is/am/are + going to + V.inf.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) will + S. + V.inf ?
- (Question Word+) is/am/are + S. + going to + V.inf?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + will + not + V.inf.
- S + is/am/are + not + going to + V.inf.
Passive Voice
- S. + will + be + V.3 [+ by + ผู้กระทำกริยา (ถ้ามี)].
- S + is/am/are + going to + be + V.3 [+ by + ผู้กระทำกริยา (ถ้ามี)].
ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ในอนาคต
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + will + be + V.ing.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) will + S. + be + V.ing?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + will + not + be + V.ing.
Passive Voice :
- S + will + be + being + V.3 [+ by + ผู้กระทำกริยา (ถ้ามี)].
คาดการณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และจะเสร็จสิ้นหรือเสร็จสมบูรณ์ในอนาคต ส่วนใหญ่แล้วจะใช้คู่กับคำศัพท์ที่ใช้บอกเวลา
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S. + will + have + V.3.
ประโยคคำถาม :
- (Question Word+) will + S. + have + V.3?
ประโยคปฏิเสธ :
- S + will + not + have + V.3.
Passive Voice :
- S. + will + have + been + V.3
ที่กล่าวถึงเหตุการณ์หนึ่ง สามารถบอกได้ว่าเกิดขึ้นมานานแค่ไหน ก่อนที่จะจบลงไปในอดีต
- เหตุการณ์แรกนั้น คือ past perfect continuous tense ส่วนเหตุการณ์ที่สองที่เกิดขึ้นตามนั้น เป็น past simple tense
โครงสร้างรูปประโยค
ประโยคบอกเล่า :
- S + will + have + been + V.ing
ประโยคคำถาม :
- Had + S. + have + been + V.ing.
ประโยคปฏิเสธ :
- S + will + not + have + been + V.ing
โครงสร้างทั้งหมดนี้คือโครงสร้างประโยคทั้ง 12 Tense ทั้งประโยค บอกเล่า, คำถาม และปฏิเสธ ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ โครงสร้างทั้งหมดของ Tense จะเหมือนกันเกือบทั้งหมด ต่างกันแค่เพียงช่วงเวลา ทำให้มีการผันประโยคต่างกันออกไป
แต่การอ่านและจำอย่างเดียวอาจทำให้น้องสับสนเวลาใช้งานจริง การที่น้อง ๆ จำแบบเข้าใจ หรือใช้เทคนิคช่วยจำที่จะทำให้น้องนำไปใช้ได้ทุกสนามสอบอย่างมีประสิทธิภาพ หากน้อง ๆ อยากได้เทคนิคการจำ tense แบบเข้าใจ เพื่อนำไปใช้ได้จริง อาจจะต้องมีตัวช่วยในการช่วยเรียน ไม่ว่าจะเป็นพาร์ตไหนก็ตาม เพื่อให้น้อง ๆ ได้แม่นในทุกพาร์ต พร้อมลุยทุกสนามสอบ
คอร์สปรับพื้นฐาน Grammar & Error ม.ต้น
คอร์สที่น้อง ม.ต้น จะไม่ได้รับเพียงแค่เทคนิคการทำพาร์ต Tense เท่านั้น แต่น้อง ๆ ยังได้เทคนิคการทำพาร์ต Error และยังมีพาร์ตอื่น ๆ ที่จะช่วยตี grammar ให้ละเอียด เข้าใจทุกพาร์ต ไม่ปล่อยผ่านให้งง พร้อมลงทุกสนามสอบ
ม.ต้น ปรับพื้นฐาน Grammar & Error ไปพร้อมกัน
วันอังคาร, พฤหัส, ศุกร์ที่ 4-21 ต.ค. 65
เวลา 10:00 – 12:00 น.
สอนโดนครูพี่แทน
ที่สยามสแควร์ซอย 10 หรือ Online ผ่าน ZOOM
<<เพียง 2,500.- จากปกติ 3,000.->>