TGAT คืออะไร สอบอะไรบ้าง รวมข้อมูลที่ น้องม.6 ต้องรู้

ประเทศไทยมีระบบการศึกษาตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงอุดมศึกษา ซึ่งในระดับอุดมศึกษาจะต้องมีการสอบเพื่อนำคะแนนไปประกอบการยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัย โดยระบบการสอบเข้าของปีก่อนๆ จะใช้คะแนนจากการสอบ GAT แต่ในปีการศึกษา 2566 มีการปรับเปลี่ยนไปใช้คะแนนจากการสอบ TGAT แทน โดยมีคณะอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกันออกข้อสอบ 

การปรับเปลี่ยนระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่น้องๆ บางคนอาจยังไม่คุ้นเคย ดังนั้น ในบทความนี้ ENCONCEPT จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ TGAT มาให้น้องๆ ได้ทำความรู้จัก ว่า TGAT คืออะไร TGAT มีการสอบอะไรบ้าง รวมถึงเทคนิคการทำข้อสอบ TGAT ให้ได้คะแนนแบบปังๆ

Table of Contents

การสอบ TGAT คืออะไร

TGAT คือ การสอบเพื่อวัดความถนัดทั่วไป (Thai General Aptitude Test) มีคะแนนเต็มทั้งหมด 300 คะแนน เป็นชุดข้อสอบรูปแบบใหม่จากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ซึ่งปรับเปลี่ยนต่อยอดมาจากข้อสอบ GAT แบบเดิม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของรายวิชาที่ใช้สอบในแต่ละสนาม และเน้นให้นักเรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ไม่อาศัยการท่องจำเพียงอย่างเดียว โดยคะแนน TGAT จะเป็นคะแนนส่วนสำคัญในการยื่นสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS ของแต่ละปี

รวมสิ่งที่ต้องรู้ TGAT สอบอะไรบ้าง

TGAT สอบอะไรบ้าง? เนื่องด้วยข้อสอบ TGAT เป็นการปรับพัฒนาต่อยอดจากข้อสอบ GAT แบบเดิม จึงมีการปรับเพิ่มการสอบเป็น 3 ส่วน คือ การสื่อสารภาษาอังกฤษ การคิดอย่างมีเหตุผล และข้อสอบที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง สมรรถนะการทำงานในอนาคต 

โดย TGAT ส่วนที่ 1 จะเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษทั้งหมด จะเน้นในเรื่องการสื่อสาร และการใช้ชีวิตประจำวัน และส่วน TGAT ที่ 2-3 จะขึ้นอยู่กับเรา ว่าจะเลือกข้อสอบ TGAT เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย

ไปดูแบบเจาะลึกกันว่า แต่ละส่วนมีเนื้อหาข้อสอบอย่างไร

*สามารถดูตัวอย่างข้อสอบได้ที่ TGAT Blueprint

Part 1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ

การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication) เป็นพาร์ทการสอบ TGAT ที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวัน มีความแตกต่างจาก GAT ภาษาอังกฤษแบบเดิม ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก 100 คะแนน ระยะเวลาในการทำข้อสอบ 60 นาที มีโครงสร้างเนื้อหาที่ต้องสอบได้แก่

  • ทักษะการพูด ซึ่งจะประกอบไปด้วย 
    • การถาม-ตอบ 10 ข้อ
    • เติมบทสนทนาแบบสั้น 10 ข้อ
    • เติมบทสนทนาแบบยาว 10 ข้อ
  • ทักษะการอ่าน ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • เติมข้อความเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ 15 ข้อ
    • อ่านเพื่อจับใจความ 15 ข้อ

Part 2 การคิดอย่างมีเหตุผล

การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) เป็นการสอบที่เน้นการเข้าใจ วิพากษ์ข้อมูลข่าวสาร ใช้เหตุผลเชิงปริมาณ และคิดอย่างมีตรรกะ มีความคล้ายข้อสอบ GAT เชื่อมโยงแบบเดิม แต่ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก คะแนนเต็ม 100 คะแนน ระยะเวลาในการทำข้อสอบ 60 นาที มีโครงสร้างเนื้อหาที่ต้องสอบ ดังนี้

  • ความสามารถทางภาษา จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • การสื่อความหมาย
    • การใช้ภาษา
    • การอ่าน
    • การเข้าใจภาษา
  • ความสามารถทางตัวเลข จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • อนุกรมมิติ
    • การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ
    • ความเพียงพอของข้อมูล
    • โจทย์ปัญหา
  • ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • แบบพับกล่อง
    • แบบหาภาพต่าง
    • แบบหมุนภาพสามมิติ
    • แบบประกอบภาพ
  • ความสามารถทางเหตุผล จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • อนุกรมภาพ
    • อุปมาอุปไมยภาพ
    • สรุปความ
    • วิเคราะห์ข้อความ

Part 3 สมรรถนะการทำงาน

สมรรถนะการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competencies) เป็นพาร์ทการสอบ TGAT ที่เน้นวิเคราะห์ข้อสอบ โดยต้องทำความเข้าใจความต้องการของโจทย์ และเข้าใจวิธีการตอบคำถาม ซึ่งทุกคำตอบจะมีคะแนนที่แตกต่างกันออกไป

โดยรูปแบบข้อสอบเป็นปรนัย 4 ตัวเลือก ทุกคำตอบจะมีคะแนนอยู่ที่ระหว่าง 0 – 1 คะแนน ดังนั้น การตอบคำถามจึงมี 2 แบบ คือ เลือกตอบตัวเลือกเดียว และเลือกตอบหลายตัวเลือก มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีระยะเวลาที่ใช้สอบ 60 นาที โดยโครงสร้างข้อสอบ มีดังต่อไปนี้

  • การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 
    • การคิดเชิงวิเคราะห์
    • การแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ
    • ความคิดเชิงนวัตกรรม
  • การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • การระบุปัญหา
    • การแสวงหาทางออก
    • การนำทางออกไปแก้ปัญหา
    • การประเมินทางออกเพื่อการพัฒนาปรับปรุง
  • การบริหารจัดการอารมณ์ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • ความตระหนักรู้ตนเอง
    • การควบคุมอารมณ์และบุคลิกภาพ
    • ความเข้าใจผู้อื่น
  • การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
    • การมุ่งเน้นการบริการสังคม
    • จิตสำนึกและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
    • การสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น

ใครบ้างที่สามารถสอบ TGAT ได้

หลายคนอาจสงสัยว่า สามารถใช้คะแนน TGAT เข้ามหาลัยไหนได้บ้าง โดยการสอบ TGAT นั้นเป็นการสอบที่สำคัญ คะแนน TGAT คือ คะแนนหลักที่ใช้ยื่นสมัครผ่านระบบ TCAS ได้ทุกรอบ ทั้งรอบแฟ้มสะสมผลงาน รอบโควตา และรอบแอดมิดชัน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้คะแนน TGAT ในการพิจารณาคัดเลือก โดยแต่ละคณะจะใช้สัดส่วนคะแนนมากน้อยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถสอบ TGAT ได้จะต้องเป็นนักเรียนที่อยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งจะไม่อนุญาตให้น้องๆ มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 5 เข้าสอบ 

รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ TGAT

สำหรับใครที่มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TGAT สามารถดูได้ที่นี่เลย

TGAT สามารถเลือกภาษาที่จะสอบได้

ระบบการสอบ TGAT นั้นมีการเปลี่ยนระบบบางส่วนเพื่อให้รองรับนักเรียนนอกที่สนใจในคณะภาคสามัญในม.ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมา รวมไปถึงมอบทางเลือกให้กับนักเรียนไทยที่จบการศึกษานอกประเทศ หรือนักเรียนอินเตอร์ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน โดยผู้เข้าสอบนั้นสามารถขอข้อสอบที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษมาแล้วได้ โดยผู้สมัครสามารถเลือกสอบได้ตามความสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสอบด้วยกระดาษ (PBT) โดยมีโรงเรียนต่างๆ เป็นสนามสอบ หรือการเลือกสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (CBT) โดยมีมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นสนามสอบ

คะแนน TGAT อยู่ได้กี่ปี ?

คะแนน TGAT จะมีอายุการใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น หากเป็นเด็กซิ่ว ก็ไม่สามารถใช้คะแนน TGAT เก่าได้ ต้องสอบใหม่ทุกปี เพื่อให้เป็นมาตรฐานไม่ให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบเนื่องจากข้อสอบ TGAT ในแต่ละปีอาจจะมีความยาก หรือง่ายต่างกันได้

TGAT สอบเมื่อไหร่ ?

TGAT สอบเมื่อไหร่ ?

วันที่ในการสอบ TGAT นั้นต่างกันออกไปในแต่ละปี แต่การสมัครนั้นจะเปิดรับในช่วงเดือน พฤศจิกายน และ สอบในเดือนธันวาคมของทุกปี

สอบ TGAT เสียเงินหรือไม่ ?

การลงทะเบียน TGAT นั้นมีค่าลงทะเบียนอยู่ที่ 140 บาท

คะแนน TGAT ใช้ยื่นคะแนนรอบไหนบ้าง ?

หลังจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เปิดรับนักศึกษาในรอบรับตรงไปแล้วในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี นักเรียนจะได้สอบ TGAT เพื่อนำคะแนนไปใช้ในการยื่นคะแนนในรอบต่าง ๆ โดยในแต่ละรอบนั้นจะใช้คะแนน TGAT ในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไปตามนี้

TGAT รอบแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)

ในรอบแฟ้มสะสมผลงาน ผู้เข้าสมัครจำเป็นต้องมีคะแนน TGAT เพื่อยืนยันสิทธิ์ในการสมัครเท่านั้น โดยในรอบนี้โอกาสในการถูกคัดเลือกจะไม่ตายตัวเป็นการใช้คะแนน TGAT, GPAX และผลงาน Portfolio ในการประเมิณแบบรายบุคคลเป็นหลัก

ยื่น TGAT รอบโควตา

ในรอบโควตา ของมหาวิทยาลัยเป็นการยื่นคะแนนของสมัครกับคณะใดคณะหนึ่งโดยตรง โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนดเกณฑ์พิจารณาด้วยตัวเอง ทว่าบางมหาวิทยาลัยอาจจะเลือกใช้คะแนนสอบวัดผลของตัวเองเช่น CU-TEP และ TU-GET โดยไม่ใช้ TGAT เลยก็ได้

ยื่น TGAT รอบ Admission

สำหรับรอบ Admission นั้นเป็นการยื่นคะแนน TGAT พร้อมกับการสอบส่วนกลางอื่น ๆ เช่น A-Level เป็นรอบที่เปิดรับนักศึกษาด้วยคะแนนรวมเป็นหลัก โดยจะใช้อัตราส่วนของคะแน TGAT สูงสุดถึง 50% เลยทีเดียว แต่ก็แล้วแต่คณะด้วยเช่นกัน

ยื่น TGAT รอบ Direct Admission

ปิดท้ายกันที่รอบ Direct Admission หรือการรับตรงอิสระ ที่มหาวิทยาลัยจะเปิดรับและกำหนดเกณฑ์การรับนักศึกษาได้อิสระมากขึ้น เพื่อรับเด็กที่พลาดโอกาสในการรับเข้าผ่านรอบ Admission

นอกจาก TGAT แล้ว ยังมี TPAT และ A-Level ด้วย

ในระบบ TCAS นอกจากการสอบ TGAT แล้ว ทปอ. ยังมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบอื่นๆ อีกด้วย นั่นคือ การสอบ TPAT และการสอบ A-Level

TPAT

TPAT คือ การสอบวัดความรู้ความถนัดทางวิชาชีพ (Thai Professional Aptitude Test) เน้นวัดความสามารถเชิงทักษะในสายอาชีพต่างๆ เป็นข้อสอบที่ปรับพัฒนามาจากข้อสอบ PAT แบบเดิม มีคะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน และปรับวิชาสอบเหลือเพียง 5 วิชา ได้แก่

  • TPAT1 ความถนัดวิชาเฉพาะแพทย์ (วิชาเฉพาะ กสพท.)
  • TPAT2 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
  • TPAT3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
  • TPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
  • TPAT5 ความถนัดทางครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์

A Level หรือ Applied Knowledge

A-Level คือ การสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ เน้นการนำความรู้เชิงวิชาการที่เรียนในหลักสูตรไปประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นข้อสอบที่ปรับมาจากข้อสอบวิชาสามัญแบบเดิม แต่ละวิชาจะมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมีวิชาหลักให้เลือกสอบทั้งหมด 9 วิชาหลัก ได้แก่

  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ แบ่งออกเป็น
    • คณิตศาสตร์พื้นฐาน
    • คณิตศาสตร์เพิ่มเติม
  • วิทยาศาสตร์ประยุกต์
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • สังคมศึกษา
  • ภาษาไทย
  • ภาษาอังกฤษ
  • ภาษาต่างประเทศ ซึ่งจะมีให้เลือกจำนวน 7 ภาษา ในการสอบสามารถเลือกได้เพียงแค่วิชาเดียว เพราะทุกวิชา สอบในวันและเวลาเดียวกัน โดยมีดังนี้
    • ฝรั่งเศส
    • เยอรมัน
    • ญี่ปุ่น
    • เกาหลี
    • จีน
    • บาลี
    • สเปน

รีวิวเรียน TGAT ที่ ENCONCEPT

หากน้องๆ ต้องการแรงบันดาลใจในการฮึดสู้เพื่อเตรียมตัวสอบ TGAT ลองดูตัวอย่างจากรุ่นพี่ที่ได้คะแนน TGAT สูงๆ ดูสิ มาลองแอบส่องกันซิว่าคนเรียนเก่งๆ อย่างรุ่นพี่เขาเตรียมตัวกันอย่างไร

จากการที่ทปอ. มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงทำให้คะแนนสอบ TGAT กลายเป็นคะแนนสำคัญส่วนหนึ่งในการยื่นสมัครผ่านระบบ TCAS ทุกรอบ ซึ่ง TGAT คือ การสอบเพื่อวัดความถนัดทั่วไป มาแทนที่การสอบ GAT แบบเดิม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของรายวิชาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่มาแทนการสอบแบบเก่า เช่น การสอบ TPAT มาแทนการสอบ PAT และการสอบ A-Level มาแทนการสอบวิชาสามัญ เป็นต้น และสำหรับน้องๆ คนไหนที่กำลังเตรียมสอบ TGAT ต้องการทบทวนความรู้และเสริมทักษะให้แน่น ก็สามารถเลือกคอร์สเรียนออนไลน์ตะลุยโจทย์ TCAS Admission TGAT & A-Level ของ ENCONCEPT ที่จะช่วยให้น้องๆ เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยเนื้อหาคุณภาพที่ครบครัน รับรองเลยว่าน้องๆ จะได้เทคนิคในการทำข้อสอบ TGAT และข้อสอบ A-Level สามารถทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว และทันกับเวลาสอบที่จำกัดอย่างแน่นอน

เรียน TGAT ที่ ENCONCEPT คอร์สไหนดี ?


คอร์ส Pre TCAS Admission อังกฤษ

คอร์สที่จะเน้นทวน Grammar สำคัญที่ต้องรู้ก่อนสอบใน 25 ชั่วโมง

เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่มีความรู้ ความเข้าใจใน Grammar มีพื้นฐานแล้ว แต่ต้องการทบทวน และรวบรวมความรู้ Grammar ที่กระจัดกระจาย มองไม่เห็นเป็นภาพเดียว

คอร์ส TCAS Admission (TGAT, A-Level) อังกฤษ

สรุปเนื้อหาสำคัญที่ออกสอบบ่อยพร้อมฝึกเทคนิคทำโจทย์ใน 63 ชั่วโมง ครบทั้งข้อสอบ TGAT, A-Level ภาษาอังกฤษ ซึ่งในคอร์สนี้จะไม่เน้นการสอนเนื้อหาแบบลงลึกแต่จะเน้นสอนเทคนิคในการทำข้อสอบครบทุกพาร์ต ใครที่อยากจะลงเรียนคอร์สนี้อาจจะต้องมีพื้นฐานในระดับนึง เพื่อให้สามารถเรียนตามได้ทัน

คอร์สตะลุยโจทย์ TCAS Admission (TGAT, A-Level) อังกฤษ

คอร์สสั้น ๆ ที่อยากแนะนำให้น้อง ๆ ลงเรียนก่อนสอบ จะมีทั้งข้อสอบ TGAT, A-Level ภาษาอังกฤษปีล่าสุด เน้นฝึกทำโจทย์ให้ทันและถูกต้อง สอนโดยครูพี่หมอเต้ที่ได้ GAT ENG 150 เต็ม 9 วิชาสามัญ อังกฤษ 97.5 คะแนน รับรองว่ามีเทคนิคดี ๆ ที่จะทำให้ได้คะแนนเต็มพร้อมทำทันเวลาแน่นอน


นอกจาก 3 คอร์สนี้แล้ว Enconcept ยังมีคอร์สอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมพี่โค้ชที่จะคอยตอบคำถามวิชาการ, วางแผนการเรียน, คอยให้ความช่วยเหลือตลอดการเรียน สนใจสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Enconcept ทุกช่องทาง

คอร์สเรียนแนะนำ

Memolody Complete
เล่ม 1-3

ยกมาหมดครบอัลบั้ม
เรียนศัพท์มันส์กว่า 210 เพลง

6,500.-

Pre TCAS
Admission อังกฤษ

เน้นพื้นฐาน ม.ปลาย
โค้งสุดท้ายสรุปรวบรัดเนื้อหา TCAS

5,500.-

TCAS Admission อังกฤษ
(TGAT, A-Level)

เก็บเทคนิคพิชิต TCAS
เน้นเจาะโจทย์ จับประเด็นสำคัญ

8,000.-

ตะลุยโจทย์ TCAS
Admission อังกฤษ

เน้นปูพื้นฐาน ม.ปลาย โค้งสุดท้าย
สรุปรวบรัดเนื้อหา TCAS

5,500.-

Junior Vocab &
Reading ม.ต้น

ยำเทคนิคเก่งศัพท์ระดับ ม.ต้น
เผยเคล็ดลับทำ Reading

5,500.-

Junior
Grammar & Error

เก่ง Grammar ระดับ ม.ต้น
เป็นระบบ จำได้ ใช้เป็น

5,500.-

คอร์สแนะนำของ Enconcept คอร์สเตรียมอุดม

สอบเข้าเตรียมฯ และ
ม.4 โรงเรียนดัง อังกฤษ

สรุปรวมคลังความรู้ ม.ต้น
เผยเทคนิคพิชิตสนาม ม.4

7,900.-

คอร์สแนะนำของ Enconcept คอร์สเตรียมอุดม

Pre สอบเข้าเตรียมฯ และ
ม.4 โรงเรียนดัง อังกฤษ

ปรับพื้นฐานรวบรัดระดับ ม.ต้น
ฉบับก่อนสอบสนาม ม.4

5,500.-

Vocab & Reading
ประถมปลาย

อ่านเก่ง! ศัพท์แน่น! ระดับประถม
พร้อมทำข้อสอบทุกรูปแบบ

5,500.-

Grammar & Error
ประถมปลาย

ปูพื้นฐานแกรมมาร์ประถมให้แข็งแรง
เจาะเฉพาะหัวใจสำคัญ

5,500.-

Memolody Signature
ประถม

60 เพลงจำศัพท์ สอนศัพท์ประถม
ออกสอบ จำเพลินกว่า 1,000 คำ

5,500.-

สอบเข้า ม.1 โรงเรียนดัง
และ O-NET ป.6 อังกฤษ

ลำดับเนื้อหาเป็นระบบ
สรุปครบเครื่องเรื่องออกสอบ

5,500.-

สมัครเรียน
ทดลองเรียนฟรี
ปรึกษาปัญหา
การเรียน
สมัครเรียน
ทดลองเรียนฟรี
ปรึกษาปัญหา
การเรียน