ติวอังกฤษเข้าเตรียมอุดมที่ไหนดี? เตรียมตัวสอบเข้าเตรียมอุดม 1 ปีพอไหม ?

การสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาถือเป็นหนึ่งในความฝันของน้อง ๆ หลายคน โดยเฉพาะการสอบในวิชาภาษาอังกฤษที่เป็นหนึ่งในวิชาหลักที่ใช้ในการสอบคัดเลือกไม่ว่าจะสอบเข้าสายวิทย์ หรือสายศิลป์ สำหรับใครที่ตั้งใจจะเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าเตรียมอุดมในปีหน้า คำถามที่มักจะเกิดขึ้นคือ “การเตรียมตัวภายใน 1 ปีนั้นเพียงพอหรือไม่?” และควรเลือกติวอังกฤษเข้าเตรียมอุดมที่ไหนดี ถึงจะได้ผลดีที่สุด? ในบทความนี้เราจะมาคลี่คลายคำตอบในเรื่องเหล่านี้ พร้อมแนะนำวิธีการเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพในการสอบเข้าเตรียมอุดม ทั้งในด้านการเลือกแหล่งติวภาษาอังกฤษและการวางแผนการศึกษาที่เหมาะสม

เปิดสถิติ สอบเข้าเตรียมอุดม ปีล่าสุด เทรนด์การสอบเข้าแต่ละสายสายไหนมาแรง 

ก่อนจะลงลึกไปในเรื่องการติวภาษาอังกฤษ มาดูกันก่อนว่าในปีล่าสุดการสอบเข้าเตรียมอุดมมีกระแสและเทรนด์อย่างไรบ้าง รวมถึงสายการเรียนต่างๆ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งในส่วนของการเลือกเรียนวิชา และการเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้า สถิติเหล่านี้จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการแข่งขันในปีที่ผ่านมา และช่วยวางแผนการเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยในปี 2567 มีนักเรียนที่สนใจเข้าสมัครสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ทั้งหมด 11607 คน โดยแบ่งตามสายการเรียนได้ดังนี้

1.แผนการเรียน วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ รับจำนวน 1,000 คน ผู้สมัคร 8,275 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 8.275

2.แผนการเรียน ภาษา-คณิตศาสตร์ รับ 120 คน ผู้สมัคร 1,173 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 9.775

3.แผนการเรียน ภาษา-ฝรั่งเศส รับ 80 คน ผู้สมัคร 392 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 4.9

4.แผนการเรียน ภาษา-เยอรมัน รับ 80 คน ผู้สมัคร 323 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 4.0375

5.แผนการเรียน ภาษา-ญี่ปุ่น รับ 80 คน ผู้สมัคร 461 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 5.7625

6.แผนการเรียน ภาษา-จีน รับ 80 คน ผู้สมัคร 570 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 7.125

7.แผนการเรียน ภาษา-สเปน รับ 40 คน ผู้สมัคร 186 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1: 4.65

8.แผนการเรียน ภาษา-เกาหลี รับ 40 คน ผู้สมัคร 227 คน คิดเป็นอัตราการแข่งขัน 1:  5.675

ซึ่งจากสถิติการรับสมัครปีล่าสุดจะเห็นว่าเทรนด์ของน้อง ๆ ให้ความสนใจกับสายการเรียนภาษา-คณิตศาสตร์ มากที่สุด รองลงมาคือ สายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ และ สายภาษา-จีน ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์ที่ค่อนข้างน่าสนใจเนื่องจากจากสถิติในอดีต อัตราการแข่งขันของสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ จะสูงที่สุดรองลงมาคือสายการเรียนภาษา-คณิตศาสตร์ และสายภาษา-ภาษา

ทำไมนักเรียนส่วนใหญ่ถึงเลือกสอบเข้า ม.4 เตรียมอุดม?

1.สิ่งแวดล้อมที่ช่วยผลักดันให้เก่งขึ้น  

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นหู โดยเฉพาะคนที่อยากมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายใหญ่ในอนาคต ที่นี่ไม่ได้มีแค่เนื้อหาการเรียนที่เข้มข้น แต่สิ่งแวดล้อมรอบตัวก็ช่วยดึงศักยภาพของทุกคนออกมา การได้เรียนกับเพื่อนที่มีไฟเหมือนกัน ช่วยกระตุ้นให้เราพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กัน ทั้งในเรื่องการเรียนและการเตรียมตัวสู่อนาคต  

2. การเตรียมตัวที่ได้มากกว่าการสอบ  

การสอบเข้าเตรียมฯ เป็นเหมือนบททดสอบใหญ่สำหรับน้อง ๆ ม.ต้น แต่สิ่งที่ได้กลับมามันมีค่ามากกว่าแค่ผลสอบ การเตรียมตัวครั้งนี้ทำให้เราเรียนรู้หลายอย่าง เช่น การจัดการเวลา การวางแผนอ่านหนังสือ และการฝึกทำข้อสอบให้ทันเวลา  

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เราไม่ได้สอบติด ความรู้และประสบการณ์จากการเตรียมตัวนี้ยังช่วยให้เราเตรียมพร้อมสำหรับการสอบระดับประเทศอื่นๆ ในอนาคต เช่น สอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือแม้แต่การเผชิญสถานการณ์ที่ต้องใช้ความพยายาม การเตรียมตัวสูง

3.รับมือกับความเครียดและความกดดัน  

ความเครียดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการเตรียมสอบครั้งใหญ่แบบนี้ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะจัดการกับมันยังไง การสอบเข้าเตรียมฯ ทำให้เราได้ฝึกรับมือกับความกดดัน ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยเราได้ตลอดชีวิต  

บางครั้งความกดดันอาจดูหนักหนา แต่ถ้าเราผ่านมันมาได้ เราจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และมันจะกลายเป็นพื้นฐานที่ทำให้เรากล้าสู้กับความท้าทายในอนาคต  

สรุปง่ายๆ เตรียมอุดม สอบเข้าม.4 ไม่ใช่แค่การพยายามเข้ารร.ดัง แต่เป็นโอกาสให้เราได้เตรียมพร้อมตัวเอง ทั้งด้านการเรียนและชีวิตจริง ถ้าคิดว่าการเดินทางครั้งนี้มันยาก ลองมองว่ามันคือการซ้อมเพื่ออนาคต และไม่ว่าผลจะออกมายังไง สิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างทางมันจะติดตัวเราไปเสมอ  

ถ้าน้อง ๆ กำลังลังเลว่าจะสอบดีไหม ลองคิดดูว่าแค่การได้ลองตั้งใจทำอะไรสักอย่างเต็มที่ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจแล้ว

สอบเข้าเตรียมอุดม อังกฤษ เตรียมตัว 1 ปีพอไหม?

หลายคนอาจสงสัยว่าการเตรียมตัวสอบเข้าเตรียมอุดมในส่วนของภาษาอังกฤษ ใช้เวลาเพียง 1 ปีจะพอไหม? โดยเฉพาะเมื่อภาษาอังกฤษเป็นข้อสอบที่ทุกสายต้องสอบ ไม่ว่าจะเป็นสายวิทย์-คณิต ศิลป์-คำนวณ หรือศิลป์-ภาษา และเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้คะแนนของแต่ละคน  

1 ปีพอไหม? ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเดิม  

คำตอบขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษของน้อง ๆ เอง:  

– ถ้าพื้นฐานยังไม่แม่น: อาจต้องเริ่มจากการปูพื้นฐานใหม่ เช่น ไวยากรณ์ คำศัพท์ และการอ่านจับใจความ จากนั้นค่อยต่อยอดด้วยการเรียนเนื้อหาระดับมัธยมต้นให้ครบถ้วน  

– ถ้าพื้นฐานค่อนข้างดี: สามารถเริ่มทำโจทย์เพื่อเสริมความมั่นใจได้เลย พร้อมทั้งฝึกเทคนิคการทำข้อสอบ เช่น การจัดการเวลา และการอ่านข้อสอบให้เข้าใจโครงสร้าง  

สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้แบบเป็นขั้นเป็นตอน ให้เวลาสำหรับการฝึกฝน ทั้งการทำโจทย์ การวิเคราะห์ข้อผิดพลาด และเรียนรู้เทคนิคการตอบคำถามอย่างมีประสิทธิภาพ  

เหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือน ทำยังไงดี?  

หากมีเวลาน้อยกว่า 3 เดือน ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีหลายคนที่เตรียมตัวในระยะเวลาสั้นๆ แล้วประสบความสำเร็จได้ แต่ต้องเน้นความเข้มข้น เช่น:  

– เรียนรู้เนื้อหาอย่างรวดเร็ว: จับจุดเนื้อหาที่ออกสอบบ่อย เช่น Tense, Sentence Structure, Vocabulary  

– ฝึกทำโจทย์ทุกวัน: ตั้งเป้าหมายวันละ 3-4 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น  

– ฝึกเทคนิคการทำข้อสอบ: เน้นข้อสอบเก่าๆ หรือแบบฝึกหัดที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง  

ระยะเวลาสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเตรียมตัวให้ถูกจุดและตรงกับสิ่งที่ข้อสอบต้องการ  

ติวเข้าเตรียมอุดมยังไงให้ได้ผลใน 1 ปี: เลือกที่ติวอังกฤษยังไงให้ได้ผลที่สุด? 

1. เลือกที่ติวที่มีประสบการณ์

เลือกที่ติวที่มีการวิเคราะห์ข้อสอบเตรียมอุดมอย่างละเอียด สอนทั้งเนื้อหาและโครงสร้างข้อสอบ เพื่อให้น้อง ๆ คุ้นเคยกับแนวทางการออกข้อสอบ  

2. ดูรีวิวจากรุ่นพี่

การสอบถามหรือหาข้อมูลจากรุ่นพี่ที่เคยสอบเข้าเตรียมฯ เป็นวิธีที่ช่วยได้มาก เพราะรุ่นพี่มักมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับที่ติว ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นของแต่ละสถาบัน หรือวิธีการสอนที่เหมาะกับเนื้อหาสอบ ลองเลือกที่ติวที่มีรีวิวดีๆ หรือมีสถิติความสำเร็จสูง เช่น รุ่นพี่สอบติดจำนวนมาก หรือที่ติวที่ได้รับคำชมในเรื่องการสอนที่เข้าใจง่ายและครอบคลุม

นอกจากนี้ อาจสอบถามเพิ่มเติมว่าที่ติวไหนมีคอร์สปรับพื้นฐานที่ดี หรือที่ไหนเน้นโจทย์ใกล้เคียงข้อสอบจริง เพราะจะช่วยให้น้อง ๆ เลือกได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด!

3. ทดลองเรียนคอร์สสอบเข้าเตรียมอุดมหรือดูคลิปสอนฟรี

ก่อนสมัครเรียน ลองเข้าคลาสทดลองหรือดูคลิปสอนฟรี เพื่อดูว่าสไตล์การสอนเหมาะกับเราไหม  

4. เลือกติวเตอร์ที่ใส่ใจและติดตามผล

ติวเตอร์ที่ดีควรให้คำแนะนำส่วนตัว เช่น ช่วยประเมินพื้นฐาน ปรับแผนการเรียนให้เหมาะกับระยะเวลาที่มี  

5. จัดตารางเรียนให้เหมาะสม

ไม่ใช่แค่เรียนที่ติวเตอร์ แต่ต้องฝึกเองที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ ตั้งเป้าหมายรายสัปดาห์ เช่น ทำโจทย์ครบกี่ข้อ หรือเก็บเนื้อหาให้ได้กี่บท  

การเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษสำหรับเตรียมอุดมใน 1 ปีทำได้ ถ้าวางแผนดีและเริ่มต้นเร็ว ยิ่งรู้ว่าพื้นฐานตัวเองอยู่จุดไหน ก็ยิ่งช่วยให้เราปรับแผนได้ตรงจุด และถ้าเวลาเหลือน้อย ก็ไม่ต้องกังวล แค่ตั้งใจและโฟกัสในช่วงเวลาที่มี โอกาสสำเร็จก็ยังอยู่ในมือเรา

ที่ 1 สายวิทย์ สายศิลป์ติวสอบเข้าเตรียมอุดม เรียนที่ Enconcept