ก่อนที่เราจะเริ่มไปเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย เราต้องรู้ก่อนว่าเราอยากเข้าคณะอะไร คณะนั้นต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง จะได้โฟกัสเนื้อหาสำคัญที่ต้องใช้ในการเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยได้ถูกต้อง
1. ก่อนเตรียมสอบเข้ามหาลัย ต้อง “ค้นหาตัวเองให้เจอ“
น้อง ๆ บางคนอาจโชคดี รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เก่งอะไร อยากเป็นอะไรมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ว่าเราอยากเข้าคณะอะไรกันแน่ การเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะรู้ตัวไว สามารถเตรียมตัวได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่บางคนอาจไม่ได้โชคดีขนาดนั้น บางคนอาจอยู่ม.6 แล้วแต่ยังไมารู้เลยว่าอยากเป็นอะไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ เพราะเราอาจไม่ได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำอะไรที่หลากหลายยิ่งในช่วง COVID-19 แบบนี้ หลาย ๆ คนแทบไม่ได้มีโอกาสออกจากบ้านไปร่วมกิจกรรม ไป OPEN HOUSE หรือค้นหาตัวตนอื่น ๆ ทำให้ยากที่จะรู้ว่าเราชอบอะไร วันนี้เลยมีอีก 1 วิธีการที่จะมาลองหาดูว่าเราจะพัฒนาอะไรไปเป็นอาชีพในอนาคตได้บ้าง
นั่นคือการหา IKIGAI นั่นเอง IKIGAI หมายถึง เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งอิคิไกนี้ ไม่ใช่สิ่งพิเศษที่จะต้องค้นหา แต่เป็นการสร้างวงกลมที่สมดุลของตัวเราเองขึ้นมา ซึ่งหากเราสามารถค้นหาตัวเองจนพบ ว่าตัวเราชอบอะไร และ ทำอะไรได้ดี ก็สามารถวางเป้าหมายชีวิตของเราเองได้อย่างชัดเจน ซึ่งน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาลัย ก็สามารถนำวิธีไปใช้ได้เช่นกัน
- วงกลมของสิ่งที่เรารัก หรือชอบ (What you LOVE) แปลตรงตัวเลยคือเรารักที่จะทำอะไร ชอบเล่นเกม ปลูกต้นไม้ ทำงานบ้าน ฯลฯ
- วงกลมของสิ่งที่เราทำได้ดี (What you are GOOD AT) หมายถึงเราทำอะไรได้ดี เช่น ทำขนมอร่อย, เก่งในงานฝีมือ ฯลฯ
- วงกลมของสิ่งที่เราทำแล้วได้รับสิ่งตอบแทน (What you can be PAID FOR) เช่น ขายขนม ขายต้นไม้, พัฒนาเกม, เกมเมอร์ ฯลฯ
- วงกลมของสิ่งที่โลกต้องการ (What the world NEEDS) เช่น ผู้คนต้องการแอปพลิเคชันด้านการเงิน โรงเรียนต้องการคนทำอาหาร ผู้กำกับต้องการนักแสดง ฯลฯ
เมื่อสิ่งที่เรารัก + สิ่งที่เราทำได้ดี = ความหลงใหล (Passion)
สิ่งที่เรารัก + สิ่งที่โลกต้องการ = หน้าที่ (Mission)
สิ่งที่โลกต้องการ + สิ่งที่เราทำแล้วได้รับสิ่งตอบแทน = งาน (Vocation)
สิ่งที่เราทำได้ดี + สิ่งที่เราทำแล้วได้รับสิ่งตอบแทน = อาชีพ (Profession)
ซึ่งน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาลัยอาจจะลองสังเกตจากพฤติกรรมของตัวเองในแต่ละวัน หรือนิสัยเล็ก ๆ ของเราดูก็ได้แล้วลองเอามาจัดกลุ่มดู น้อง ๆ ก็จะรู้ว่า นิสัยความชอบ ความสามารถของเราสามารถพัฒนาไปด้านไหนได้บ้าง ซึ่งการเริ่มต้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าหากเราเริ่มต้นผิด เราก็จะต้องเสียเวลากลับมาเริ่มใหม่ ทำให้เตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย ยิ่งต้องใช้เวลา และความพยายามมากกว่าเดิม
2. ก่อนเตรียมสอบเข้ามหาลัย ต้อง “หาข้อมูลการสอบเข้า“
การเข้าศึกษาต่อในระดับมหาลัย แต่ละมหาลัย แต่ละคณะ ก็จะมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกัน ทำให้การเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยในแต่ละรอบ ในแต่ละมหาลัย นั้นแตกต่างกัน ต้องติดตามและศึกษาข้อมูลการสอบเข้าอย่างใกล้ชิดทั้งการเปลี่ยนแปลงสนามสอบ จำนวนรับ คุณสมบัติ คะแนนที่ต้องใช้
3.ก่อนเตรียมสอบเข้ามหาลัย ต้อง”ติดตาม TIMELINE ให้ดี”
เพราะการรู้ระยะเวลาคร่าว ๆ จะทำให้เราสามารถวางแผนเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยได้ว่าเราจะต้องอ่านวิชาไหน ให้จบภายในช่วงไหนบ้าง หรือต้องยื่นคะแนนเมื่อไหร่ สมัครสอบเมื่อไหร่ และถ้าน้อง ๆ TCAS 66 ที่ตอนนี้กำลังวางแผนที่จะเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยอยู่ ลองใช้ TIMELINE ของปีนี้ในการอ้างอิงดูก็ได้ค่ะ เพราะระยะเวลาในการสอบของแต่ละปีจะไม่ได้แตกต่างกันมาก ส่วนน้อง ๆ TCAS 65 ก็อย่าลืม SAVE ปฎิทินไว้นะคะ
เหลือเวลาไม่ถึงปี เตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยยังไงให้ทัน อ่านยังไงให้ติดชัวร์
1.ระยะเวลาที่เหลืออยู่กับเนื้อหาที่ต้องสอบ มีผลกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย
น้อง ๆ TCAS 66 บางคนที่รู้ตัวไวว่าอยากเข้าคณะอะไร ทำให้เตรียมตัวมาตั้งแต่ม.4 แต่สำหรับ TCAS 66 บางคนที่มีคณะในใจมากกว่า 1 คณะ หรือ บางคนอาจยังไม่รู้ว่าจะเข้าคณะอะไร ทำให้ต้องอ่านเผื่อหลายวิชาก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่า ก็อาจจะต้องลอง Manage เวลาให้ดี
2. “เก็บแต่วิชาที่สัดส่วนมาก ที่เหลือเทได้” เป็นความเชื่อที่ผิด
น้อง ๆ TCAS 66 บางคนอาจมีความเชื่อว่าถ้าเราเก็บวิชาที่มีสัดส่วนเยอะได้เราจะติดแน่นอน แต่ถ้าหากมีน้อง TCAS 66 หลาย ๆ คนคิดแบบนี้วิชาที่สัดส่วนมาก คะแนนจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเป็นสิ่งที่น้อง ๆ TCAS 66 ทุกคนให้ความสำคัญ แต่วิชาที่จะมาตัดและวัดจริง ๆ คือวิชาสัดส่วนน้อยต่างหาก ที่จะวัดว่าใครทำพลาดน้อยกว่ากัน
3. หาวิธีการเรียนของตัวเองให้เจอ มีผลกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย
เราต้องรู้ตัวของเราก่อนว่าเราเรียนด้วยวิธีการไหนถึงจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดน้อง ๆ บางคนอาจจะชอบที่จะอ่านเอง บางคนถ้าได้ติวให้เพื่อนจะทำให้จำได้มากขึ้น
บางคนอาจจะอ่านเองไม่ได้ ต้องมีคนช่วยติวให้
เราต้องรู้ตัวของเราก่อนว่าเราเรียนด้วยวิธีการไหนถึงจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดน้อง ๆ บางคนอาจจะชอบที่จะอ่านเอง บางคนถ้าได้ติวให้เพื่อนจะทำให้จำได้มากขึ้น
บางคนอาจจะอ่านเองไม่ได้ ต้องมีคนช่วยติวให้
คอร์ส Pre TCAS Admission อังกฤษ คอร์สที่จะเน้นทวน Grammar สำคัญที่ต้องรู้ก่อนสอบใน 25 ชั่วโมง
เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่มีความรู้ ความเข้าใจใน Grammar มีพื้นฐานแล้ว แต่ต้องการทบทวน และรวบรวมความรู้ Grammar ที่กระจัดกระจาย มองไม่เห็นเป็นภาพเดียว
คอร์ส TCAS Admission อังกฤษ
สรุปเนื้อหาสำคัญที่ออกสอบบ่อยพร้อมฝึกเทคนิคทำโจทย์ใน 57 ชั่วโมง ครบทั้งข้อสอบ วิชาสามัญ และ GAT ภาษาอังกฤษ ซึ่งในคอร์สนี้จะไม่เน้นการสอนเนื้อหาแบบลงลึกแต่จะเน้นสอนเทคนิคในการทำข้อสอบ Conversation, Error, Cloze test, Reading ใครที่อยากจะลงเรียนคอร์สนี้อาจจะต้องมีพื้นฐานในระดับนึง เพื่อให้สามารถเรียนตามได้ทัน
คอร์สตะลุยโจทย์
จะเป็นคอร์สสั้น ๆ ที่อยากแนะนำให้น้อง ๆ ลงเรียนก่อนสอบ จะมีทั้งข้อสอบวิชาสามัญ และ GAT ภาษาอังกฤษ ปีล่าสุด เน้นฝึกทำโจทย์ให้ทันและถูกต้อง สอนโดยครูพี่หมอเต้ที่ได้ GAT ENG 150 เต็ม 9 วิชาสามัญ อังกฤษ 97.5 คะแนน รับรองว่ามีเทคนิคดี ๆ ที่จะทำให้ได้คะแนนเต็มพร้อมทำทันเวลาแน่นอน
นอกจาก 3 คอร์สนี้แล้ว Enconcept ยังมีคอร์สอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยเตรียมน้อง ๆ TCAS65 TCAS66ให้พร้อมสอบเข้ามหาลัย พร้อมพี่โค้ชที่จะคอยตอบคำถามวิชาการ, วางแผนการเรียน, คอยให้ความช่วยเหลือตลอดการเรียน สนใจสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Enconcept ทุกช่องทาง
- การทำโจทย์สนามสอบต่างๆ ให้เยอะด้วย ‘คอร์สตะลุยโจทย์ TCAS Admission อังกฤษ’ ‘คอร์ส Gat insight’ และ ‘คอร์ส 9 วิชาสามัญ อังกฤษ’ เพื่อฝึกตัวเองให้คุ้นชินกับข้อสอบ พร้อมปิดจุดอ่อน สร้างจุดแข็งได้ทัน!