ทำความรู้จัก คณะแพทย์ มข. พร้อมเช็กคุณสมบัติให้ดีก่อนเตรียมตัวสอบ

ทำความรู้จัก คณะแพทย์ มข. พร้อมเช็กคุณสมบัติให้ดีก่อนเตรียมตัวสอบ

มาทำความรู้จักกับคณะแพทย์ มข. ว่ามีดีอย่างไร ทำไมใครๆ หลายคนถึงสนใจอยากเรียนต่อที่นี่ และต้องเป็นคณะนี้ที่ได้ยินกันอยู่เสมอ รวมถึงเกณฑ์การรับสมัครของปี 2567 จะต้องใช้คะแนนสอบอะไรบ้างในการยื่นเข้าใช้สำหรับเกณฑ์แพทย์ มข. 2567 

ทำความรู้จักกับคณะแพทย์ มข.

ทำความรู้จักกับคณะแพทย์ มข.

ขอแนะนำให้รู้จักกับประวัติความเป็นมาของคณะแพทย์ มข. สายการเรียนที่น้องๆ ให้ความสนใจในการตั้งเป้าหมายเป็นอันดับแรกๆ หรือมักเป็นตัวเลือกหลักของการวางแผนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้ แพทย์ มข. เป็นคณะที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งมีวิทยาเขตหลักๆ คือวิทยาเขตขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งคณะที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการแพทย์อย่างมากในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยค้นคว้าปัญหาด้านสุขภาพของประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใหญ่ๆ อยู่เสมอ ทำให้น้องๆ ที่สนใจเข้าเรียนเพื่อมีจุดประสงค์ในการเป็นแพทย์ในสายต่างๆ ให้ความสนใจกับคณะนี้เยอะมาก

จุดเด่นคือเรื่องของการเรียนการสอน เพราะจะเป็นคณะที่มีสาขาศาสตร์การแพทย์ให้เลือกเรียนเกือบทุกแขนง และมีสาขา เวชปฏิบัติทั่วไป และสุขภาพชุมชน มีการเรียนแบบเน้นเห็นจริง ฝึกลงมือปฏิบัติจริง ควบคู่กับภาคทฤษฎี ทำให้มีทั้งความรู้ ความเข้าใจ ผ่านประสบการณ์จากหลักสูตรที่มีการพัฒนาตามยุคสมัยอยู่เสมอ 

หลักสูตรของคณะแพทย์มข.

หลักสูตรของคณะแพทย์มข.

คณะแพทย์ มข. ปัจจุบันนี้มีทั้งหมด 22 หลักสูตร โดยแบ่งเป็นภาควิชาด้านปรีคลินิก 9 สาขา และภาควิชาคลินิก 13 สาขา ใช้ระยะเวลาในการเรียนหลักสูตรของคณะแพทย์ มข. ทั้งหมด 6 ปี แต่ถ้าหากเป็นสายวิทยาศาสตร์การแพทย์นั้น ก็จะเรียนหลักสูตรของแพทยศาสตร์ 6 ปี แล้วต้องเรียนเพิ่มอีก 2 ปี หากเลือกไปยังทางสายรังสีเทคนิค หรือเวชนิทัศน์ จะต้องเรียนหลักสูตรของด้านวิทยาศาสตร์บัณฑิตเพิ่มเติมต่ออีก 2 ปี รวมเป็น 8 ปีของสายนี้ ส่วนภาควิชาที่แยกเป็นด้านปรีดีคลินิก และภาควิชาคลินิก สามารถแยกย่อยสาขาเรียนได้ ดังนี้

ปรีคลินิก (Pre-Clinic)

ปรีคลินิก (Pre – Clinic) ของคณะแพทยศาสตร์ มข. จะแบ่งแขนงสายเรียนได้ทั้งหมด 9 สาขา ดังนี้

  1. กายวิภาคศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต ร่างกาย การทำงานของระบบส่วนต่างๆ เพื่อให้รู้ถึงการทำงานที่ประสานกันในแต่ละส่วนประสาทของร่างกาย 
  2. จุลชีววิทยา เรียนเกี่ยวกับการวิจัยศึกษาจุลินทรีย์ หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทั้งกลุ่มแบคทีเรีย โปรโตซัว และอื่นๆ ซึ่งจะเน้นทางสาย Lab เป็นหลัก
  3. ชีวเคมี เรียนเกี่ยวกับการประยุกต์สายชีวะ และเคมีเข้ามารวมกัน ทำให้ได้เรียนรู้ถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการประยุกต์ใช้กับสิ่งมีชีวิตประเภทต่างๆ สามารถอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพได้ พร้อมการประยุกต์ใช้ต่อยอดความรู้ศาสตร์ได้หลายแขนง 
  4. ปรสิตวิทยา เรียนเกี่ยวกับการศึกษาถึงลักษณะการอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ที่มีฝ่ายได้ประโยชน์ (ฝ่ายปรสิต) และฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ (ฝ่ายโฮสท์) เพื่อตรวจสอบว่า การแพร่กระจายของปรสิตแต่ละชนิดต้องควบคุม หรือจัดการอย่างไรในเชิงการแพทย์
  5. พยาธิวิทยา เรียนเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ และกลไกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่มีผลกับโรคนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเฉพาะ หรือโรคทั่วไป แค่มีการเจ็บป่วยในเชิงพยาธิสภาพก็จะได้ทราบต้นสายปลายเหตุ 
  6. เภสัชวิทยา เรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติ และฤทธิ์ของตัวยาแต่ละประเภท และการส่งผลต่อร่างกายในด้านต่างๆ  
  7. เวชศาสตร์ชุมชน เวชศาสตร์ครอบครัว และอาชีวเวชศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับการออกปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณสุขเพื่อชุมชน ให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพ พร้อมแนวทางการแก้ไขจัดการอย่างถูกสุขลักษณะ และตัดต้นเหตุของการเกิดโรคต่างๆ  
  8. สรีรวิทยา เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานหลักของสายการแพทย์โดยรวม มีความรู้ตั้งแต่ระดับโมเลกุลไปจนถึงระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมด
  9. เวชศาสตร์เขตร้อน เรียนเกี่ยวกับโรคที่มักเกิดขึ้นในโซนเขตร้อน รวมถึงประเทศไทยด้วย เช่น โรคพยาธิต่างๆ ที่ปนเปื้อน โรคมาลาเรีย โรคที่ได้รับเชื้อมาจากแบคทีเรีย หรือไวรัสจากเขตร้อนต่างๆ  

คลินิก (Clinic)

คลินิก (Clinic) ของคณะแพทยศาสตร์ มข. จะแบ่งแขนงสายเรียนได้ทั้งหมด 13 สาขา ดังนี้ 

  1. กุมารเวชศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับโรค และความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ป่วยเด็ก 
  2. จักษุวิทยา เรียนเกี่ยวกับระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับสายตา และโรคที่เกี่ยวกับการมองเห็นทั้งหมด 
  3. จิตเวชศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับการดูแลรักษาสภาพจิตใจของผู้ป่วย และการบำบัดฟื้นฟูผู้ที่มีปัญหาในการใช้ชีวิตด้านต่างๆ  
  4. นิติเวชศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมสำหรับสายการแพทย์ เพื่อสืบทราบไปถึงลักษณะการเสียชีวิตของแต่ละเคส
  1. รังสีวิทยา เรียนเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคผ่านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และผล Lab ของเครื่องมือที่ทันสมัยใหม่
  2. วิสัญญีวิทยา เรียนเกี่ยวกับความรู้เฉพาะทางในการเลือกวิธีสำหรับบำบัดฟื้นฟูความเจ็บปวดของผู้ป่วย และประคองอายุขัยของชีวิต 
  3. เวชศาสตร์ฟื้นฟู เรียนเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านต่างๆ ของร่างกาย และระบบประสาทของผู้ป่วยที่มีการเสื่อมถอย ให้กลับมามีอาการที่ดีขึ้น 
  4. ศัลยศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับการทำหัตถการ รวมถึงเครื่องมือเกี่ยวกับการผ่าตัด หรือรักษาความผิดปกติทางรูปลักษณ์ของผู้ป่วย 
  5. สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา เรียนเกี่ยวกับระบบการทำงานของร่างกาย ทั้งกายวิภาค และภายในของสตรีทุกช่วงวัย และทุกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายผู้หญิง 
  6. โสต ศอ นาสิกวิทยา เรียนเกี่ยวกับการวินิจฉัย และรักษาความผิดปกติของโสตประสาทการรับรู้ ได้แก่ หู คอ จมูก และอาการเกี่ยวกับศีรษะ
  7. ออร์โธปิดิกส์ เรียนเกี่ยวกับภาวะของการบาดเจ็บทางข้อ และกระดูกแบบองค์รวมทุกด้าน
  8. อายุรศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับการฟื้นฟู การบำบัด การรักษาผู้ป่วยผ่านการใช้ยา การช่วยเหลือรักษาโรคแบบไม่ต้องผ่านการเข้าผ่าตัด
  9. เวชศาสตร์ฉุกเฉิน เรียนเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยในสภาวะฉุกเฉินทุกด้าน และเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเฉพาะทาง เพื่อการต่อยอดไปได้หลายแขนง
ข้อดีของคณะแพทย์ มข.

ข้อดีของคณะแพทย์ มข. 

คณะแพทย์ในไทยถือว่าเป็นสาขาวิชาที่มีการแข่งขันสูงมาโดยตลอด ทำให้มีมหาวิทยาลัยหลายที่ให้การรองรับมากขึ้น แต่ข้อดีของการเลือกเรียนแพทย์ มข. ที่แตกต่างจากคณะแพทยศาสตร์ในที่อื่นๆ มีดังนี้

มาตรฐานของหลักสูตรดี

คณะแพทย์มข. มีมาตรฐานของหลักสูตรที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทางการแพทย์จากต่างประเทศ ทำให้มีเครื่องมือทันสมัย และหลักสูตรที่มีการปรับปรุงให้ตามทันยุคสมัยอยู่เสมอ โดยผู้เรียนจะได้เข้าใจตั้งแต่การเข้าเรียนของภาคทฤษฎี จนถึงภาคปฏิบัติโดยไม่ต้องรอจนถึงชั้นปีสูงๆ จะได้รับการเรียนการสอนที่ดูแลโดยอาจารย์แพทย์ผู้มากประสบการณ์ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในทุกแขนง และทุกศาสตร์ในไทยอย่างแน่นอน อีกทั้งคณะแพทย์ มข. ได้รับชื่อเสียงว่า เป็นศูนย์กลางความร่วมมือในด้านการค้นคว้า และการวิจัยปัญหาด้านสุขภาพของประเทศไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเลือกเรียนวิทยาเขตไหน ก็จะได้รับความรู้อัดแน่นตรงศาสตร์เหมือนกันแน่นอน

ค่าเทอมไม่แพง

หากใครที่กังวลถึงค่าใช้จ่ายในการเรียนคณะแพทย์ มข. ต้องบอกเลยว่าเป็นเรตอัตราค่าเทอมที่สามารถเอื้อมถึงได้ สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรได้ง่ายมากกว่าที่อื่นๆ อย่างแน่นอน ซึ่งข้อมูลอัปเดตค่าเทอมแพทย์ มข. ในส่วนของค่าเทอม และค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรของแพทย์ มข. 67 จะมีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรรวมทั้งหมด 216,000 บาท ซึ่งแบ่งค่าเทอมออกเป็น 18,000 บาทต่อเทอมเพียงเท่านั้น

เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่

ไม่เพียงแค่คณะแพทยศาสตร์ของ มข. เท่านั้นที่มีความน่าสนใจ และมีการแข่งขันสูงเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย แต่ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นเองก็เป็นมหาลัยขนาดใหญ่ ซึ่งมีจำนวนนักศึกษามากกว่า 34,382 คน และมีคณะทั้งหมดถึง 21 คณะ พร้อมกับพื้นที่กิจกรรมส่วนกลางที่พร้อมสนับสนุนการศึกษา และความสนใจของนักศึกษาทุกด้าน มีบริการหอสมุดให้ได้อ่านหนังสือ มีพื้นที่ให้ได้พักผ่อน หรือทำกิจกรรมที่ชอบกลางแจ้งได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่ทำการไปรษณีย์ ศูนย์บริการ สหกรณ์ และร้านค้าต่างๆ พร้อมทั้งพื้นที่อำนวยความสะดวกอีกมากมาย 

อยู่ในจังหวัดที่ค่าครองชีพถูก

อีกหนึ่งข้อดีของการเลือกอยู่จังหวัดขอนแก่น คือเรื่องของค่าครองชีพที่ถูกมาก โดยขอนแก่นเป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งมีระบบสาธารณะต่างๆ ค่อนข้างสะดวก และพื้นที่อยู่อาศัยมีความสงบ ค่าใช้จ่ายน้อย จึงพบว่าทั้งค่าหอพัก ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และประหยัดหลายเท่าแม้จะแบ่งไปใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงอื่นๆ ก็ตาม รับรองว่าปรับตัวได้ง่ายแน่นอน!

อยากสอบเข้าคณะแพทย์ มข. ต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง

อยากสอบเข้าคณะแพทย์ มข. ต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง

เกณฑ์แพทย์ มข. 67 สำหรับเข้าสมัคร จะแบ่งรับบุคคลเป็น 3 รอบ โดยมีเกณฑ์ที่ต่างกัน ดังนี้

รอบที่ 1 การรับจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) 

รอบแรกจะมีรับทั้งหมด 2 โครงการหลัก คือ MDX กับ MD02 โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ KKU Admissions ซึ่งทั้งสองโครงการมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมือนกัน 2 ข้อ ดังนี้

  • มีคะแนนผลสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษอันเป็นมาตรฐานการสอบหลัก ตั้งแต่ระดับช่วงคะแนนที่ 1 ขึ้นไป ซึ่งประกอบด้วย TOELF ITP ตั้งแต่ 477 – 510 คะแนน TOELF computer based ตั้งแต่ 153 – 180 คะแนน TOELF IBT ตั้งแต่ 53 – 64 คะแนน Academic IELTS ตั้งแต่ 5.0 คะแนน CU-TEP ตั้งแต่ 68 – 74 คะแนน และ KEPT ตั้งแต่ 62 – 70 คะแนน
  • ใช้คะแนนของผลสอบ BMAT (Biomedical admissions test) Part 1 และ part 2 รวมกันไม่ต่ำกว่า 8.0 ส่วน Part 3 ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ ในส่วนนี้ผู้เข้าสอบสามารถใช้คะแนนสอบย้อนหลังได้ไม่เกิน 1 ปี เช่น ยื่นสมัครปี 2567 ก็สามารถใช้คะแนนสอบของปี 2566 ได้

1. โครงการผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษทางวิชาการและภาษาอังกฤษจากทั่วประเทศ (MDX)

โครงการ MDX จะรับผู้สมัครทั้งหมด 44 คน โดยแบ่งย่อยคุณสมบัติของโครงการเล็กเพิ่มเติมได้ ดังนี้

  • โครงการ MDX-1 สำหรับผู้มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการ รับทั้งหมด 29 คน เพียงแค่เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย และกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า หรือจบการศึกษาระดับชั้น ม.6 มาแล้วไม่เกิน 6 เดือน สามารถเข้ายื่นสมัครได้เลย
  • โครงการ MDX-MHA สำหรับผู้มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการ เพื่อ 2 ปริญญา สาขาวิชาการบริหารโรงพยาบาล รับจำนวน 10 คน โดยผู้สมัครต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า และผ่านการอบรมหลักสูตรการบริหารโรงพยาบาลในขั้นแนะนำของโครงการคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • โครงการ MDX-MDH สำหรับผู้มีความรู้ ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการ เพื่อ 2 ปริญญา สาขาวิชาวิทยาการข้อมูล และสารสนเทศสุขภาพ รับจำนวน 5 คน โดยผู้สมัครต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า และผ่านการอบรมหลักสูตรวิทยาการข้อมูล และสารสนเทศสุขภาพในขั้นแนะนำของโครงการคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

2.  โครงการผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษทางวิชาการและภาษาอังกฤษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (MD02) 

โครงการ MD02 จะรับผู้สมัครทั้งหมด 92 คน โดยแบ่งย่อยคุณสมบัติของโครงการเล็กเพิ่มเติมได้ ดังนี้

  • โครงการ MD02-1 สำหรับผู้มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับผู้สมัครทั้งหมด 67 คน โดยผู้สมัครต้องกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 ของโรงเรียนใดก็ได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • โครงการ MD02-MHA สำหรับมีความรู้ ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อ 2 ปริญญา สาขาวิชาการบริหารโรงพยาบาล รับจำนวน 20 คน โดยผู้สมัครต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่าในโรงเรียนใดก็ได้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผ่านการอบรมหลักสูตรการบริหารโรงพยาบาลในขั้นแนะนำของโครงการคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • โครงการ MD02-MDX สำหรับผู้มีความรู้ ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการ เพื่อ 2 ปริญญา สาขาวิชาวิทยาการข้อมูล และสารสนเทศสุขภาพ รับจำนวน 5 คน โดยผู้สมัครต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่าในโรงเรียนใดก็ได้ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผ่านการอบรมหลักสูตรวิทยาการข้อมูล และสารสนเทศสุขภาพในขั้นแนะนำของโครงการคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รอบที่ 2 การรับจากโควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

การสมัครแพทย์ มข. 67 รอบ 2 มีรับทั้งหมด 3 โครงการหลัก จำนวนทั้งหมด 132 คน โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ KKU Admissions

1. โครงการโควตาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (001)

จำนวนที่เปิดรับทั้งหมด 20 คน โดยมีคุณสมบัติของผู้สมัคร ดังนี้

  • ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่มีสัญชาติไทย
  • ผู้สมัครต้องกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 ของโรงเรียนใดก็ได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • มีผลการสอบ NETSAT

2. โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทกลุ่มแพทย์เพื่อชุมชน (CPIRD)

จำนวนรับทั้งหมดขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาตามความเหมาะสม และคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคน โดยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • ผู้สมัครต้องกำลังเรียนชั้น ม.6 ภายในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เลย นครพนม มุกดาหาร สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู และหนองคาย
  • ผู้สมัคร และผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ใน 12 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เลย นครพนม มุกดาหาร สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู และหนองคายตามทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
  • ผู้สมัครต้องมีผลการสอบ NETSAT

3. โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทกลุ่มลดความเหลื่อมล้ำ (Inclusive)

จำนวนรับทั้งหมดขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาตามความเหมาะสม และคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละท่าน โดยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • ผู้สมัครต้องกำลังเรียนชั้น ม.6 ภายในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เลย นครพนม มุกดาหาร สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู และหนองคาย
  • ผู้สมัคร และผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องมีภูมิลำเนาอยู่นอกพื้นที่อำเภอเมือง 12 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เลย นครพนม มุกดาหาร สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู และหนองคายตามทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ยกเว้นจังหวัดบึงกาฬ และหนองบัวลำภูที่สามารถเป็นผู้อาศัยอยู่ในอำเภอเมืองได้
  • ผู้สมัครต้องมีผลการสอบ NETSAT

รอบที่ 3 การรับตรงทั่วประเทศ

โครงการสมัครเข้าสอบรอบ 3 เป็นโครงการรอบรับตรงจากผู้สมัครทั่วประเทศ รับจำนวนทั้งหมด 20 คน สามารถติดตามการรับสมัครรอบ 3 ได้ทาง ก ส พ ท โดยคุณสมบัติของรอบรับตรงทั่วประเทศ มีดังนี้ 

  • มีคะแนน TPAT1
  • มีคะแนน A-Level (ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ประยุกต์1)

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรอบรับตรงต้องติดตามข่าวสารประกาศใหม่ๆ อยู่เสมอ พร้อมการเตรียมตัว และเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน รวมถึงเกณฑ์คะแนนแพทย์ มข. ที่ควรรู้ว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้างในแต่ละรอบ แต่ละช่วงเวลาการสมัคร สำหรับหลักสูตรแพทย์มี 2 ปริญญา โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง KKUMEDX

สรุป

แพทย์ มข. เป็นคณะ และมหาลัยที่หลายคนอยากเข้ามากอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เพราะมีหลักสูตรการเรียนที่ทันสมัย ได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีควบคู่กับการปฏิบัติจริง โดยไม่ต้องรอจบการศึกษาชั้นปีสูงๆ และยังเป็นคณะที่มีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรใหม่ๆ ตามยุคสมัยอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นคณะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเพื่อการวิจัยค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับด้านสุขภาพในประเทศไทยอีกด้วย มีหลักสูตรแยกย่อยเป็น 2 แขนงอย่างชัดเจน ได้แก่ ปรีคลินิก และหลักสูตรคลินิก ที่สามารถเลือกเรียนได้ตามแผนอนาคตที่ต้องการทำงาน ส่วนการสอบเข้ามีทั้งหมดถึง 3 รอบ สามารถวางแผนเพื่อเลือกรอบการสมัครที่เหมาะกับคุณสมบัติของตัวเองมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครต้องมีการเตรียมตัวก่อนสอบอย่างเต็มที่ และติดตามข่าวสารอยู่เสมอ โดยสามารถเตรียมตัวก่อนสอบ พร้อมดูรายละเอียดทุกอย่างก่อน รวมถึงการเข้าลงทะเบียนติวเข้ม หรือวางแผนเส้นทางการสมัครแพทย์ มข. ได้ที่ Enconcept กับคอร์ส TCAS ที่มีตั้งแต่ปรับพื้นฐาน ไปจนถึงสรุปเนื้อหาก่อนถึงโค้งสุดท้าย 

คอร์สเรียนแนะนำ

Memolody Complete
เล่ม 1-3

ยกมาหมดครบอัลบั้ม
เรียนศัพท์มันส์กว่า 210 เพลง

6,500.-

Pre TCAS
Admission อังกฤษ

เน้นพื้นฐาน ม.ปลาย
โค้งสุดท้ายสรุปรวบรัดเนื้อหา TCAS

5,500.-

TCAS Admission อังกฤษ
(TGAT, A-Level)

เก็บเทคนิคพิชิต TCAS
เน้นเจาะโจทย์ จับประเด็นสำคัญ

8,000.-

ตะลุยโจทย์ TCAS
Admission อังกฤษ

เน้นปูพื้นฐาน ม.ปลาย โค้งสุดท้าย
สรุปรวบรัดเนื้อหา TCAS

5,500.-

Junior Vocab &
Reading ม.ต้น

ยำเทคนิคเก่งศัพท์ระดับ ม.ต้น
เผยเคล็ดลับทำ Reading

5,500.-

Junior
Grammar & Error

เก่ง Grammar ระดับ ม.ต้น
เป็นระบบ จำได้ ใช้เป็น

5,500.-

คอร์สแนะนำของ Enconcept คอร์สเตรียมอุดม

สอบเข้าเตรียมฯ และ
ม.4 โรงเรียนดัง อังกฤษ

สรุปรวมคลังความรู้ ม.ต้น
เผยเทคนิคพิชิตสนาม ม.4

7,900.-

คอร์สแนะนำของ Enconcept คอร์สเตรียมอุดม

Pre สอบเข้าเตรียมฯ และ
ม.4 โรงเรียนดัง อังกฤษ

ปรับพื้นฐานรวบรัดระดับ ม.ต้น
ฉบับก่อนสอบสนาม ม.4

5,500.-

Vocab & Reading
ประถมปลาย

อ่านเก่ง! ศัพท์แน่น! ระดับประถม
พร้อมทำข้อสอบทุกรูปแบบ

5,500.-

Grammar & Error
ประถมปลาย

ปูพื้นฐานแกรมมาร์ประถมให้แข็งแรง
เจาะเฉพาะหัวใจสำคัญ

5,500.-

Memolody Signature
ประถม

60 เพลงจำศัพท์ สอนศัพท์ประถม
ออกสอบ จำเพลินกว่า 1,000 คำ

5,500.-

สอบเข้า ม.1 โรงเรียนดัง
และ O-NET ป.6 อังกฤษ

ลำดับเนื้อหาเป็นระบบ
สรุปครบเครื่องเรื่องออกสอบ

5,500.-

สมัครเรียน
ทดลองเรียนฟรี
ปรึกษาปัญหา
การเรียน
สมัครเรียน
ทดลองเรียนฟรี
ปรึกษาปัญหา
การเรียน