น้องๆ คนไหนที่อยากขอทุนเพื่อบินลัดฟ้าไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก วันนี้ทาง ENCONCEPT มีข่าวดีมาบอก เพราะตอนนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เปิดโอกาสในนักเรียนและนักศึกษาจากทั่วโลก สามารถขอทุนการศึกษาเพื่อไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลี ตามสาขาวิชาที่ทางรัฐบาลจัดสรรไว้ให้
ใครที่อยากไปตามหาอปป้า ตามรอยซีรีส์ดัง หรือเรียนรู้วัฒนธรรมที่แสนจะมีเอกลักษณ์ ตลอดจนฝึกปรือทักษะการใช้ภาษาเกาหลีให้แข็งแกร่งเพื่อการทำงานในอนาคต สามารถสมัครทุนนี้ ซึ่งเป็นทุนที่มีรัฐบาลเกาหลีเป็นสปอนเซอร์มอบทุนการศึกษาได้เลย
โดยพี่ๆ ENCONCEPT ได้รวบรวมระเบียบการและวิธีการสมัครขอทุนรัฐบาลเกาหลี หรือ Global Korea Scholarship (GKS) เอาไว้ให้น้องๆ ในบทความนี้แล้ว

Table of Contents
ทุนรัฐบาลเกาหลีคืออะไร
ทุนรัฐบาลเกาหลี หรือ Global Korea Scholarship (GKS) เป็นทุนที่มอบให้กับนักเรียนและนักศึกษาทั่วโลกเป็นประจำทุกปี ซึ่งกำหนดการรับสมัครจะถูกประกาศในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีจุดประสงค์ในการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ และเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ซึ่งรัฐบาลเกาหลี เคยมอบทุนการศึกษาให้กับประเทศไทยในระดับปริญญาตรี 4 – 5 ทุน และในระดับปริญญาโท – เอก รวมกันราวๆ 40 ทุนในทุกๆ ปี
แต่ในปัจจุบันทุนรัฐบาลเกาหลี ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ในการรับสมัคร โดยแบ่งโควต้าของทุนการศึกษาตามเขตภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยถูกจัดเกณฑ์ให้อยู่ในโซนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมกับประเทศลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และติมอร์ สำหรับมหาวิทยาลัยในเขตภูมิภาคจำนวน 23 ทุน และ ทุนอนุปริญญาอีก 7 ทุน
แปลว่า น้องๆ ต้องฟิตความรู้ให้พร้อม เพราะเกณฑ์โควตาใหม่นั้นกว้างขึ้นกว่าเดิมมาก และนักเรียน นักศึกษาในเขตประเทศเพื่อนบ้านของเราก็มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากทุนรัฐบาลเกาหลีนั้น ใช้ภาษาอังกฤษเป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณาและให้น้ำหนักกับภาษาเกาหลีเป็นเกณฑ์รอง เพราะเมื่อได้รับทุนก็จะต้องไปเรียนภาษาเกาหลีตามที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลจัดหาไว้ให้อยู่แล้ว ยกเว้นน้องๆ สอบได้คะแนน TOPIK สูงมากๆ จึงจะได้รับการยกเว้นการเรียนเสริม

ทุนรัฐบาลเกาหลีดำเนินการอย่างไร
สำหรับทุนรัฐบาลเกาหลีหรือ Global Korea Scholarship (GKS) นั้น ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้มอบหมายให้ทาง NIIED ซึ่งเป็นองค์กร ที่อยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมของกระทรวงศึกษาประจำประเทศเกาหลีใต้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลโครงการทั้งหมด ตั้งแต่ประกาศประชาสัมพันธ์ ดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม ตลอดจนดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ผู้ที่รับทุนแบบรายเดือน
โดย NIIED หรือ National Institute for International Education นั้นเป็นองค์กรที่น่าสนใจมากๆ เพราะ NIIED แนะนำตัวเองใน Linkedin ว่าเป็นเอเจนซีของรัฐบาล ที่จะมาช่วยงานกระทรวงการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ ในการกำกับดูแลการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ให้มีความสามารถทัดเทียม และแข่งขันกับประเทศต่างๆ ในโลกได้
ถ้าจะให้มองดูอีกมุม NIIED เองก็มีส่วนในการคัดเลือกคนเก่งๆ จากทั่วทุกมุมโลกมายังประเทศเกาหลีใต้ในทุกๆ ปี ผ่านการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนต่างชาติของรัฐบาลเกาหลีในแต่ละปี เพราะในระหว่างที่เรียนก็จะต้องมีการทำวิจัยและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันอยู่แล้ว การให้ทุนรัฐบาลเกาหลี จึงไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า เนื่องจากได้ดึงคนที่มีมันสมองระดับคุณภาพมาอยู่ในประเทศ
ซึ่งหลังจบการศึกษาแล้ว ก็อาจจะทำงานต่อในประเทศเกาหลีหรืออาจถึงขั้นแต่งงานและตั้งรกรากอยู่ต่อไปยาวๆ เลยก็ว่าได้ นับได้ว่า ภาระงานของ NIIED นั้นมีความลุ่มลึก ไม่ต่างจากการถ่ายถอดวัฒนธรรมเกาหลีผ่านละคร ซีรีย์ และ K-Pop ที่สามารถครองใจคนจากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างแยบยลนั่นเอง
ความน่าสนใจของทุนรัฐบาลเกาหลี
ทุนรัฐบาลเกาหลีนั้นเป็นทุนแบบเต็มจำนวน โดยน้องๆ ที่ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลี ไม่ต้องกังวลใจไปว่าหลังเรียนจบแล้วจะทำอย่างไรต่อ เพราะทุนรัฐบาลเกาหลีเป็นทุนแบบไม่ต้องใช้ทุนคืน น้องๆ สามารถออกแบบชีวิตหลังเรียนจบได้เลย ว่าจะกลับบ้าน เรียนต่อ ทำงาน หรือแต่งงานที่ประเทศเกาหลีใต้
โดยทุนรัฐบาลเกาหลีนั้นมีความครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้น้องๆ ทั้งหมด ดังต่อไปนี้
ค่าตั๋วเครื่องบิน
จ่ายตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ค่าเผื่อการตั้งถิ่นฐานใหม่
200,000 วอน
ค่าครองชีพ
ระดับปริญญาตรี: 800,000 วอน (ต่อเดือน)
ระดับปริญญาโท: 900,000 วอน (ต่อเดือน)
ระดับปริญญาเอก: 900,000 วอน (ต่อเดือน)
ประกันสุขภาพ
20,000 วอน (ต่อเดือน)
คอร์สเรียนภาษา
800,000 วอนต่อไตรมาส
ค่าเทอม
ไม่เกิน 5 ล้านวอน ต่อภาคการศึกษา
รางวัลความสามารถทางภาษาเกาหลียอดเยี่ยม
100,000 วอน
สนับสนุนงานวิจัย
210,000 – 240,000 วอน (ต่อภาคการศึกษา)
ต้นทุนการพิมพ์ (วิทยานิพนธ์)
500,000 – 800,000 วอน
ทุนที่ให้หลังจบการศึกษา
100,00 วอน (ครั้งเดียว)
ส่วนน้องๆ ที่ได้ทุนรัฐบาลเกาหลีแล้วต้องการชอปปิงหรือท่องเที่ยวภายในประเทศเกาหลีใต้นั้น น้องๆ ต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นๆ เพิ่มเติมเอง แต่โดยปกติแล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็จะมีการจัดทัศนศึกษาหรือมีโครงการต่างๆ ของชมรมในมหาวิทยาลัย ที่คอยซัพพอร์ตอยู่แล้วในบางส่วน

ใครบ้างที่สามารถสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีได้
หากน้องๆ สนใจ ทุนรัฐบาลเกาหลีแล้วอยากจะสมัครทุนนี้ขึ้นมาบ้าง บอกเลยว่าทุกคนสามารถสมัครเรียนได้ทุกมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ โดยน้องๆ ที่จะสามารถสมัครเรียนได้ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ต้องไม่ถือสัญชาติเกาหลี
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ต้องไม่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาในประเทศเกาหลีใต้
พ่อผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ต้องไม่ถือสัญชาติเกาหลี
แม่ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ต้องไม่ถือสัญชาติเกาหลี
ในกรณีที่พ่อหรือแม่ของผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี เสียชีวิต ผู้ปกครองต้องไม่ถือสัญชาติเกาหลี
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี เรียนต่อระดับปริญญาโท ต้องจบการศึกษาเทียบเท่าหรือสูงกว่าปริญญาตรี
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี เรียนต่อระดับปริญญาเอก ต้องจบการคึกษาเทียบเทียบหรือสูงกว่าปริญญาโท
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี เรียนต่อระดับปริญญาตรีต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี (นับจากวันที่ 1 เมษายน ของปีถัดไป)
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี เรียนต่อระดับปริญญาโทต้องมีอายุไม่เกิน 40 ปี (นับจากวันที่ 1 เมษายน ของปีถัดไป)
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี เรียนต่อระดับปริญญาเอก ต้องมีอายุไม่เกิน 40 ปี (นับจากวันที่ 1 เมษายน ของปีถัดไป)
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ต้องมีเกรดเฉลี่ยรวม ไม่น้อยกว่า 2.64 พร้อมเปอร์เซ็นไทล์บอกลำดับคะแนนมาประกอบด้วย
ผู้สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ต้องมีผลตรวจสุขภาพ เพื่อรับรองว่าร่างกายและจิตใจนั้นปกติดี

ช่องทางในการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี
สำหรับน้องๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะขอลองสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีในปีนี้ดูบ้าง ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาเหลือ ให้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ได้ทันเวลาอยู่นะ โดยช่องทางในการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ในขณะนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 ช่องทาง คือ ผ่านสถานทูตและผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรง ซึ่งทั้ง 2 ช่องทางนี้ จะมีระเบียบการที่แตกต่างกันอยู่เพียงเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดต่างๆ ดังต่อไปนี้
สมัครผ่านสถานทูตเกาหลีใต้ (Embassy Track)
ทุนรัฐบาลเกาหลีที่จะมอบให้นักเรียน นักศึกษาของประเทศไทย ด้วยการสมัครผ่านสถานทูตเกาหลีใต้ (Embassy Track) มีโควตาอยู่ที่ 1 คน ต่อ 1 ปี มีข้อดีตรงที่น้องๆ สามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าเรียนได้มากถึง 3 มหาวิทยาลัยเลยทีเดียว โดยจะมีการพิจารณาคัดเลือกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 รอบ
รอบที่ 1 สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยจะเป็นผู้ทำการคัดเลือกเอง
รอบที่ 2 NIIED ของประเทศเกาหลีใต้จะเป็นผู้ทำการคัดเลือก
รอบที่ 3 มหาวิทยาลัยทั้ง 3 อันดับที่น้องๆ เลือก จะเป็นผู้ทำการคัดเลือกน้องๆ ว่ามีความเหมาะสมมากเพียงใด
ในลำดับสุดท้าย ทาง NIIED ของประเทศเกาหลีใต้จะเป็นผู้ประกาศผล ว่าน้องๆ ได้ทุนรัฐบาลเกาหลี เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยจาก 3 อันดับที่น้องๆ เลือกไว้ก่อนหน้านี้
สมัครผ่านมหาวิทยาลัย (University)
หากน้องๆ พลาดจากการสมัครผ่านสถานทูตเกาหลีใต้ (Embassy Track) ก็อย่าเพิ่งเสียใจไป เพราะน้องๆ ยังมีโอกาสที่ 2 ในการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีใหม่ได้อีกรอบ แต่การสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีรอบนี้อาจจะดูโหดขึ้นมาหน่อย เพราะถือเป็นการวัดใจน้องๆ ว่าอยากงัดข้อกับคนในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันหรือจะไปแข่งกับคนทั่วโลก
งานนี้เป้าหมายของน้องๆ ต้องชัดเจนให้มากๆ เนื่องจากโอกาสสุดท้ายนี้นั้น น้องๆ ต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนมากที่สุดเพียงมหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น หากมีการตรวจพบว่าน้องๆ แอบสมัครไปมากกว่า 1 มหาวิทยาลัย น้องๆ จะถูกตัดสิทธิ์ในการรับทุนรัฐบาลเกาหลีทันที ถึงแม้ว่าน้องๆ จะได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียวก็ตาม
โดยการสมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรงนั้น แบ่งเป็นออกเป็น 2 แบบ ดังต่อไปนี้
University Industry Cooperation (UIC) Program
สำหรับการสมัคร University Industry Cooperation (UIC) Program ประจำปี 2023 นั้น ทุนรัฐบาลเกาหลี มีด้วยทั้งหมดกัน 55 ทุน โดยเป็นทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรีจำนวน 47 ทุน และทุนการศึกษาในระดับอนุปริญญาตรีอีก 8 ทุน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
รายชื่อมหาวิทยาลัยทุนรัฐบาลเกาหลีที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี แบบ University Industry Cooperation (UIC) Program
Ajou University
Konyang University
Kookmin University
KOREATECH (Korea University of Technology and Education)
Pusan National University
Sogang University
Soonchunhyang University
Tech University of Korea
รายชื่อมหาวิทยาลัยทุนรัฐบาลเกาหลีที่เปิดสอนในระดับอนุปริญญาตรีแบบ University Industry Cooperation (UIC) Program
Kyungbok University
Yeungjin University
หลักสูตรที่เปิดสอนในโครงการ University Industry Cooperation (UIC) Program
Chemical & Biomolecular Engineering
Electronic Engineering
Big Data
Computer Software Engineering
Information Security Engineering
Medical IT Engineering
Internet of Things
AI and Big Data
Computer Information
AI Convergence Mechanical Engineering
Biological Sciences
Optics and Mechatronics Engineering
Nano Mechatronics Engineering
Software Engineering
Department of Cyber Security
Department of Medical Artificial Intelligent
School of Computer Science and Engineering
School of Mechanical Engineering
Department of Mechatronics Engineering
Nanoenergy Engineering
Computer Science and Engineering
แต่หากน้องๆ ต้องการเรียนต่อระดับปริญญาตรีและอนุปริญญาในสาขาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ น้องๆ ต้องสมัครกับมหาวิทยาลัยโดยตรงตามจำนวนโควตา แถมยังต้องไปสู้กับเพื่อนๆ จากทั่วโลกอีกด้วย
Regional Universities and Associate Degree Program
ในส่วนของ Regional Universities and Associate Degree Program น้องๆ ต้องส่งเอกสารไปสมัครกับมหาวิทยาลัยโดยตรง ซึ่งโควตารัฐบาลเกาหลี ที่มอบทุนการศึกษาให้กับประเทศไทยไม่เท่าเดิมอีกต่อไป เพราะมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ใหม่ ให้เป็นทุนประจำภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ในระดับปริญญาตรีจำนวน 23 ทุน และอนุปริญญา 7 ทุน เหมือนอย่างที่พี่ๆ ทีมงาน ENCONCEPT ได้แจ้งไว้แล้วข้างต้น
รายชื่อมหาวิทยาลัยทุนรัฐบาลเกาหลีที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรีแบบ Regional Universities
Busan University of Foreign Studies
Chonnam National University
Chungbuk National University
Chungnam National University
Daegu University
Daejeon University
Dong-A University
Dongseo University
Gyeongsang National University
Hannam University
Hoseo University
Inje University
Jeju National University
Jeonbuk National University
Kangwon National University
Keimyung University
Kongju National University
Konyang University
KOREATECH (Korea University of Technology and Education)
Kyungpook National University
National Korea Maritime & Ocean University
Pai Chai University
Pukyong National University
Pusan National University
Semyung University
Silla University
Soonchunhyang University
Sun Moon University
Sunchon National University
Yeungnam University
รายชื่อมหาวิทยาลัยทุนรัฐบาลเกาหลีที่เปิดสอนในระดับอนุปริญญาตรีแบบ Associate Degree
Kyungbok University
Osan University
Yeungjin University

รายละเอียดหลักสูตร
ทุนรัฐบาลเกาหลีสำหรับการเรียน Associate Degree หรือ อนุปริญญานั้น ต้องใช้เวลาเรียนทั้งหมด 2-3 ปี และต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลีก่อนเริ่มเรียนอนุปริญญาอีก 1 ปี
ส่วนทุนรัฐบาลเกาหลีสำหรับการเรียน Bachelor’s Degree หรือ ปริญญาตรีนั้น ต้องใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4-6 ปี และต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลีก่อนเริ่มเรียนปริญญาตรีอีก 1 ปี เท่ากันกับแบบ Associate Degree หรืออนุปริญญา
สมัครสาขาไหนได้บ้าง
น้องๆ สามารถเลือกเรียนสาขาวิชาใดก็ได้ ตามที่มหาวิทยาลัยที่น้องๆ ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลี เปิดสอนในภาควิชาปกติ หากน้องๆ ต้องการเรียนเสริมภาคค่ำหรือลงคอร์สระยะสั้น ตลอดจนคอร์สออนไลน์อื่นใดเพิ่มเติมจากหลักสูตรปกติ น้องๆ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินเหล่านั้นเอง
หากน้องๆ ต้องการทราบว่ามีสาขาใดที่สามารถเข้าเรียนได้ฟรีบ้าง น้องๆ สามารถเข้าไปเช็กดูคณะได้เลยที่ไฟล์ University Information

สมัครช่องทางไหนดี
หากน้องๆ ยังไม่รู้ว่าต้องการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีผ่านทางช่องทางไหนดี พี่ๆ ขอแนะนำว่าให้ดูก่อนว่า เราตัดสินใจเลือกคณะที่อยากเรียนจริงๆ ได้แล้วหรือยัง ถ้ามั่นใจว่าต้องเป็นคณะนี้ของมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้น การสมัครแบบ University Track ก็จะช่วยให้น้องๆ ได้เรียนในคณะและมหาวิทยาลัยที่ตรงใจ
แต่ถ้าใครยังโลเลหรือมีความชอบที่หลากหลาย การสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีผ่านทางสถานทูตก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะน้องๆ สามารถเลือกได้หลายคณะ โดยการคัดเลือกของทีมงานก็จะช่วยกรองความเหมาะสมผ่านเอกสารและจดหมายแนะนำตัวที่น้องๆ ส่งไปด้วยว่า จริงๆ แล้ว น้องๆ เหมาะที่จะเรียนคณะไหน ของมหาวิทยาลัยใดที่เลือกไปมากที่สุด
ดังนั้น น้องๆ ควรจะเตรียมเอกสารเอาไว้หลายๆ ชุด จะได้เอาไว้ยื่นทั้ง 2 รอบ และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินเอกสารขอทุนรัฐบาลเกาหลี ทางที่ดีควรเตรียมใบรองรับและนำเอกสารไปให้สถานทูตรับรองตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าใจเย็นรอจนใกล้วันหมดเขตสมัครก็อาจจะต้องรอคิวนาน เพราะใครๆ ต่างก็พากันรีบนำเอกสารไปรับรองในช่วงเวลานั้นๆ
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
น้องๆ ควรเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมก่อนยื่นใบสมัครขอทุนรัฐบาลเกาหลี หรือใครที่มั่นใจว่าอยากไปเรียนต่อที่ประเทศเกาหลีใต้แน่ๆ อาจจะรีบเตรียมเอกสารบางส่วนเอาไว้ตั้งแต่ปีนี้ก่อนเลยก็ได้
โดยการสมัครขอทุนรัฐบาลเกาหลี นั้น มีกฎกติกาพิเศษอยู่เล็กน้อย ตรงที่น้องๆ คนไหนที่มีความสามารถทางภาษาเกาหลีที่ดี แค่สอบ TOPIK แล้วได้คะแนนอยู่ ในระดับ 3-6 หรือเคยมีญาติเป็นทหารผ่านศึกสงครามเกาหลีมาก่อน น้องๆ ก็จะได้รับโบนัสพิเศษ ช่วยเพิ่มคะแนนให้เป็นพิเศษได้อีก 10% ด้วยล่ะ
ส่วนเอกสารที่น้องๆ ต้องเตรียมนั้น มีดังต่อไปนี้
Applicant Form หรือ ใบสมัคร
Personal Statement หรือ จดหมายแนะนำตัว
Study Plan หรือ แผนการเรียน
Letter of Recommendation หนังสือรับรองความประพฤติ
GKS Applicant Agreement หรือ หนังสือแสดงความยินยอม
Personal Medical Assessment หรือ ผลตรวจสุขภาพ
หลักฐานแสดงสัญชาติของผู้รับทุนรัฐบาลเกาหลี เช่น ใบเกิด สำเนาทะเบียนบ้าน หรือ Passport
หลักฐานแสดงสัญชาติของพ่อผู้รับทุนรัฐบาลเกาหลี เช่น ใบเกิด สำเนาทะเบียนบ้าน หรือ Passport
หลักฐานแสดงสัญชาติของแม่ผู้รับทุนรัฐบาลเกาหลี เช่น ใบเกิด สำเนาทะเบียนบ้าน หรือ Passport
เอกสารรับรองว่ากำลังจะจบการศึกษา
Transcript
ผลสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาเกาหลี (TOPIK) หรือ ภาษาอังกฤษ ได้แก่ TOEIC, TOEFL หรือ IELTS
เกียรติบัตร วุฒิบัตร ใบประกาศต่างๆ
Passport

เพิ่มโอกาสได้ทุนรัฐบาลเกาหลี ด้วยภาษาอังกฤษ
จริงๆ แล้ว ทุนรัฐบาลเกาหลี มีหลักการพิจารณาจากเกรดเฉลี่ยเป็นหลัก เพราะต้องการคัดเลือกผู้ที่มีความตั้งใจในการเข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย แต่หากน้องๆ มีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษจากแบบทดสอบมาตรฐาน หรือ Standardized Test ที่เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกอย่าง TOEIC, TOEFL, IELTS แนบไปด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้รับการพิจารณามากขึ้น เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเข้าเรียน โดยบางมหาวิทยาลัยในโปรแกรมของทุนรัฐบาลเกาหลีเอง ก็มีการกำหนดคะแนนภาษาอังกฤษขั้นต่ำในการเข้าเรียนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเรียนการสอนในหลักสูตรอินเตอร์
จะเห็นได้ว่าถ้าคะแนนภาษาอังกฤษเราดี สิ่งนี้นี่แหละที่จะเป็น Game Changer ในสนามแข่งขอทุนตัวจริง หากน้องๆ อยากเร่งฟื้นฟูและยกระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ เพื่อเข้ารับการทดสอบ TOEIC, TOEFL, IELTS ทาง ENCONCEPT เองก็มีคอร์สเรียนของ InterPass เอาไว้รองรับ สำหรับน้องๆ ที่อยากทบทวนความรู้ก่อนสอบจริงไว้อย่างครบถ้วน
สรุป
หากน้องๆ อยากเป็นทูตแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย พร้อมกับไปสัมผัสบรรยากาศการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาที่แดนกิมจิแล้วล่ะก็ อย่าลืมเข้าไปสำรวจคณะ สาขาวิชา และมหาวิทยาลัย ที่เปิดทำการเรียนการสอนในปีการศึกษาต่อไปไว้ให้พร้อม รีบเตรียมเอกสารไว้ให้ครบ อย่าลืมนำหนังสือไปรับรองให้เรียบร้อย และที่สำคัญที่สุดคือการส่งเอกสารนั้น จะต้องส่งผ่านไปรษณีย์แบบลงทะเบียนเท่านั้น แล้วต้องส่งให้ถึงปลายทางก่อนวันหมดเขตรับสมัครด้วย
สุดท้ายนี้ พี่ๆ ENCONCEPT อยากให้น้องๆ ใช้เวลาที่เหลือช่วงนี้ในการค้นหาตัวเอง ว่าเราเหมาะกับการเรียนคณะไหนจริงๆ ก่อนยื่นขอทุนรัฐบาลเกาหลี เพราะหากน้องๆ พลาดรอบสถานทูต ต่อไปน้องจะเลือกเรียนรอบรับตรงได้เพียงอันดับเดียวเท่านั้น
หากใครอยากเตรียมตัวให้คะแนนดีๆ หนึ่งในวิชาที่ไม่ควรมองข้ามคือภาษาอังกฤษ สามารถมาเรียนพิเศษที่ Enconcept เพื่อพิชิตคะแนนภาษาอังกฤษให้ออกมาดี ให้เป็นหนึ่งตัวช่วยที่ดึงเกรดเฉลี่ยทั้งหมดขึ้นมา เพียงเท่านี้การที่สมัครเพื่อขอทุนรัฐบาลเกาหลีคงไม่ไกลเกินเอื้อม