DEK67 ควรเตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อมสำหรับการสอบ A-Level เพื่อให้คะแนนออกมาดีและสามารถยื่นเข้าเรียนต่อในคณะที่ต้องการได้ เนื่องจากการต่อสู้กับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดุเดือดขึ้นทุกปี การเตรียมตัวให้ดีก็นับว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ในบทความนี้ ENCONCEPT ได้รวบรวมข้อควรรู้เกี่ยวกับ A-Level และการเตรียมตัวให้ทุกอย่างราบรื่นพร้อมก่อนวันสอบ วันจริงจะได้ทำข้อสอบได้อย่างเต็มที่ไม่ตื่นสนาม
ทำความรู้จักกับการสอบ A-Level
A-Level นั้นย่อมาจาก Applied Knowledge Level เป็นการสอบข้อสอบกลางเพื่อนำเอาคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยตามที่น้อง ๆ ต้องการ หรือเรียกได้ว่าเป็นการสอบที่มาแทนวิชาสามัญ และ PAT7-ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ ซึ่งการยื่นคะแนนในแต่ละคณะจะใช้เกณฑ์และจำนวนวิชาที่ต้องสอบไม่เหมือนกัน โดยรายวิชาสอบ A-Level มีดังนี้
- คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน + เพิ่มเติม)
- คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 (พื้นฐาน)
- วิทยาศาสตร์ประยุกต์
- ฟิสิกส์
- เคมี
- ชีววิทยา
- ภาษาไทย
- สังคมศึกษา
- ภาษาอังกฤษ
- ภาษาต่างประเทศ (ฝรั่งเศส, เยอรมัน, จีน, ญี่ปุ่น, บาลี, เกาหลี, สเปน)
A-Level มีวิชาไหนที่ต้องสอบบ้าง
ทราบวิชาที่มีสอบใน A-Level กันไปแล้ว แต่ว่าต้องเตรียมสอบ A-Level ทุกวิชาเลยไหม แบบนี้ก็หัวระเบิดได้เลยน่ะสิ จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชานะ ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะเข้าคณะไหน มหาวิทยาลัยไหน เพราะแต่ละที่กำหนดเกณฑ์การใช้ไม่เหมือนกัน ดังนี้
- กลุ่มสายวิทย์สุขภาพใช้ 7 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ 1 ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา
- กลุ่มสายศิลป์คำนวณอย่างคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ ใช้เพียง 4 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์
ค่าสมัครสอบ และสถานที่สอบ A-Level
นอกจาก DEK67 เตรียมตัวสอบกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือค่าสมัครสอบ เพื่อเตรียมค่าใช้จ่ายเอาไว้ รวมถึงสถานที่สอบ เพื่อเลือกสถานที่สอบให้เดินทางสะดวกที่สุด
ค่าสมัครสอบ
ค่าสมัครสอบ A-Level สำหรับใช้ยื่นเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยนั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่วิชาละ 100 บาท ส่วนจะต้องเสียค่าสอบทั้งหมดเท่าไรจะขึ้นอยู่กับคณะที่น้อง ๆ สนใจว่าต้องใช้คะแนนทั้งหมดกี่วิชา
สถานที่สอบ
สถานที่สอบจะกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะไม่ได้มีอยู่ในทุกจังหวัดนะ ต้องคอยติดตามประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยปกติแล้วแต่ละจังหวัดสนามสอบส่วนใหญ่มักจะจัดตามโรงเรียนต่าง ๆ และแต่ละที่อาจจะไม่ได้มีจัดสอบครบทุกวิชา น้อง ๆ อย่าลืมดูให้รอบคอบ เพราะนอกจากเตรียมสอบ A-Level แล้ว เตรียมการเดินทางก็สำคัญไม่แพ้กันเลย
เตรียมตัวก่อนสอบ A-Level อย่างไร
เมื่อรู้ข้อมูลของการสอบ A-Level กันแล้ว ทั้งรูปแบบการสอบ วิชาที่มีสอบ ค่าสมัคร และสถานที่สอบ ต่อไปเป็นเทคนิคในการเตรียมตัวร่างกายและจิตใจล่วงหน้า เพื่อให้ตอนสอบจริงได้คะแนนเป็นไปตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
มีสมาธิเวลาเรียน
ช่วงเวลาที่เรียนในห้องเรียนเป็นช่วงเวลาที่จะได้ความรู้เต็มที่ จึงควรมีสมาธิมากๆ กับการเรียน ไม่วอกแวกกับสิ่งต่างๆ รอบข้าง ไม่คุยเล่นกับเพื่อน พอเราเข้าใจเนื้อหาตั้งแต่ในห้องเรียน จะสามารถกลับไปอ่านหนังสือได้เข้าใจง่ายมากขึ้น
อย่าเอาแต่จดอย่างเดียว
หลาย ๆ คนเวลาเรียนในห้องอาจจะกลัวจดไม่ทันจนมัวแต่จดตามครูกันใช่ไหมล่ะ จนสนใจที่สมุดและกระดานมากกว่าเสียงครูที่กำลังอธิบายเนื้อหาอยู่ แต่ถ้าเรามีสมาธิมากพอ เราก็จะสามารถจดตามสิ่งที่ครูสอนทันได้ โดยเน้นฟังให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยมาจดเป็นภาษาของตัวเองอีกที เวลากลับมาอ่านทบทวนจะได้เข้าใจได้ง่ายๆ
กล้าถาม-กล้าตอบ
นอกจากมีสมาธิและตั้งใจฟังครูสอนก่อนจดได้แล้ว หากมีอะไรไม่เข้าใจหรือสงสัยตรงไหน ให้กล้าที่จะยกมือถามครู และกล้าตอบเมื่อครูถามด้วย จะได้รู้ว่าเราเข้าใจเนื้อหาที่เรียนแบบเดียวกับที่ครูสอนไหม ถ้ามีข้อสงสัยในเนื้อหาอยู่หลายจุด หรือมีแบบฝึกหัดอยากถามครูเพิ่มเติม ก็อาจจะรอถามหลังคาบเรียนก็ได้
จับประเด็นสำคัญของเนื้อหา
หากเข้าใจเนื้อหาแล้ว ต้องฝึกจับประเด็นสำคัญต่างๆ ในบทเรียน หรือสรุปส่วนที่สำคัญออกมาได้ DEK67 ที่เตรียมตัวสอบต้องโฟกัสจุดสำคัญเหล่านี้ให้ดีๆ เพราะมักเป็นส่วนที่นำไปออกข้อสอบอยู่ตลอด เวลาไปสอบจะได้ไม่ต้องจำทุกสิ่งทุกอย่างมากจนเกินไป เพียงแค่จับประเด็นสำคัญให้ได้ในแต่ละเรื่องที่เรียนก็สามารถทำคะแนนสวยๆ ได้แล้ว
ทบทวนเนื้อหาที่เรียนไป
เรียนมาแล้วมากมาย ก็อย่าลืมหมั่นทบทวนเนื้อหาที่เรียนไปอย่างสม่ำเสมอด้วยนะ เพื่อจะได้ไม่ลืมเนื้อหาและเพื่อให้ตอนเรียนบทเรียนต่อๆ ไป สามารถปะติดปะต่อเนื้อหาในแต่ละบทที่เชื่อมโยงกันได้ และตอนสอบจะได้จำเนื้อหาไปสอบได้แบบไม่ต้องเร่งอ่านเร่งจำในตอนท้าย ทั้งสอบที่โรงเรียนและเตรียมสอบ A-Level เลย
นำเนื้อหาที่เข้าใจไปสอนเพื่อน
หนทางที่ดีในการรื้อฟื้นและทบทวนความรู้ คือการส่งต่อความรู้ให้ผู้อื่น เมื่อเพื่อนไม่เข้าใจตรงไหนของบทเรียน เราก็เข้าไปอธิบายให้เพื่อนฟัง เป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยให้เราเรียบเรียงความรู้ของตนเองและถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาของเรา ทำให้จดจำเนื้อหาได้แม่นยำขึ้น เตรียมตัวสอบได้ดีขึ้น หรือจะเป็นการผลัดกันสอนกับเพื่อนในเนื้อหาหรือวิชาที่แต่ละคนถนัด นอกจากจะเข้าใจเรื่องที่เรียนมากขึ้นแล้วยังสร้างมิตรภาพที่ดีกับเพื่อนๆ อีกด้วย
ทดลองทำข้อสอบจริง
หลังจากเตรียมสอบ A-Level ตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ทดลองทำข้อสอบ ทำสะสมอย่างสม่ำเสมอจนสามารถจับแนวทางของข้อสอบได้ และช่วยซึมซับความรู้ทีละนิดแบบไม่ต้องท่องจำจนเหนื่อย โดยข้อสอบหาได้จากหลายแหล่ง เช่น ในอินเทอร์เน็ตมีเว็บไซต์หลายเว็บที่รวมข้อสอบแยกวิชาและบทเรียนไว้ให้นักเรียนฝึกทำ หนังสือรวมข้อสอบที่วางขายตามร้านหนังสือ หรือการลงเรียนพิเศษก็จะช่วยให้ได้เทคนิคและโจทย์กลับมาฝึกทำเยอะแยะมากมาย และอย่าลืมจับเวลาในการทำข้อสอบด้วย จะได้ฝึกบริหารเวลาให้ดีก่อนต้องสอบจริง
อ่านหนังสือไม่ทัน ต้องทำอย่างไร
การอ่านหนังสือไม่ทันอาจเกิดขึ้นได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้ไป พี่มีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำในการวางแผนการอ่านเมื่อถึงจุดที่อ่านหนังสือไม่ทันแล้ว DEK67 ที่เตรียมตัวสอบกันอยู่ลองนำไปใช้ตามกันได้เลย
- จัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา เพราะในทุกวิชาจะมีบทที่สำคัญและออกสอบอยู่เป็นประจำ ต้องเน้นอ่านทำความเข้าใจในบทนั้นๆ อย่างเต็มที่ ถ้าหากมีเวลาเหลือก็ค่อยมาเก็บบทอื่นๆ ที่สำคัญรองลงมา
- จดบันทึกการอ่าน ว่าอ่านวิชาไหนไปแล้วบ้าง และอ่านถึงบทไหนหน้าไหน จะได้รู้ว่าเหลือต้องอ่านอีกแค่ไหนจะได้มาวางแผนถูก
- วางตารางอ่านหนังสือลงปฏิทิน ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าเหลือเวลาอ่านหนังสืออีกกี่วัน ต้องจัดการอ่านหนังสือกี่ชั่วโมงต่อวัน อ่านวันละกี่หน้า รวมถึงแบ่งเวลาสำหรับทบทวนเนื้อหาและฝึกทำข้อสอบ
- บันทึก To Do List ในแต่ละวัน ว่าได้อ่านหนังสือหรือทำแบบฝึกหัดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จหมดหรือไม่
- จำลองการทำข้อสอบให้เหมือนสอบสนามจริง โดยการจับเวลาในการทำข้อสอบ และฝึกทำข้อสอบเก่าย้อนหลังที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับปัจจุบัน เวลาสอบจริงจะได้ไม่รู้สึกตื่นสนาม
หากน้องๆ อ่านหนังสือเองไม่ทัน หรือเวลาไม่พอจริงๆ โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ ให้ ENCONCEPT ช่วย โดยมีสรุปเนื้อหาในคอร์สเรียน A-Level อังกฤษ ไว้ให้เรียบร้อย หมดห่วงเรื่องเตรียมสอบไม่ทันแน่นอน
สรุป
A-Level เป็นการสอบเพื่อนำเอาคะแนนไปยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยตามที่ต้องการ ซึ่งการยื่นคะแนนในแต่ละคณะจะใช้เกณฑ์และจำนวนวิชาที่ต้องสอบไม่เหมือนกัน โดยมีรายวิชาทั้งหมดที่เปิดสอบ ได้แก่ คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศอื่นๆ น้องๆ ควรเตรียมสอบ A-Level ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้คะแนนสูงมากเพียงพอที่จะได้เข้าเรียนในคณะที่ใฝ่ฝัน โดยเริ่มตั้งแต่มีสมาธิเวลาเรียนในห้องเรียน พยายามฟังคุณครูให้เข้าใจและจดสรุปเนื้อหา กล้าที่จะถามและตอบในเนื้อหาส่วนที่ไม่เข้าใจ ฝึกจับประเด็นสำคัญของเนื้อหา หมั่นทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ และอย่าลืมที่จะทดลองทำข้อสอบจริง
สำหรับน้อง ๆ DEK67 คนใดที่กำลังเตรียมตัวสอบ A-Level แล้วรู้สึกว่าสกิลภาษาอังกฤษตนเองยังไม่ดีพอหรือไม่มั่นใจ อยากรีบเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ สามารถเลือกลงเรียนกับคอร์ส A-Level อังกฤษ ของ ENCONCEPT ได้ ช่วยจับประเด็นสำคัญและทบทวนโจทย์ เพื่อตอนสอบทำได้เต็มที่ ให้คะแนนออกมาดีตามที่ได้ตั้งใจไว้