ประเทศไทยมีระบบการศึกษาตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงอุดมศึกษา ซึ่งในระดับอุดมศึกษาจะต้องมีการสอบเพื่อนำคะแนนไปประกอบการยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัย โดยระบบการสอบเข้าของปีก่อนๆ จะใช้คะแนนจากการสอบ GAT แต่ในปีการศึกษา 2566 มีการปรับเปลี่ยนไปใช้คะแนนจากการสอบ TGAT แทน โดยมีคณะอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกันออกข้อสอบ
การปรับเปลี่ยนระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่น้องๆ บางคนอาจยังไม่คุ้นเคย ดังนั้น ในบทความนี้ ENCONCEPT จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ TGAT มาให้น้องๆ ได้ทำความรู้จัก ว่า TGAT คืออะไร TGAT มีการสอบอะไรบ้าง รวมถึงเทคนิคการทำข้อสอบ TGAT ให้ได้คะแนนแบบปังๆ
Table of Contents
![](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/Jan1-1-scaled.jpg)
การสอบ TGAT คืออะไร
TGAT คือ การสอบเพื่อวัดความถนัดทั่วไป (Thai General Aptitude Test) มีคะแนนเต็มทั้งหมด 300 คะแนน เป็นชุดข้อสอบรูปแบบใหม่จากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ซึ่งปรับเปลี่ยนต่อยอดมาจากข้อสอบ GAT แบบเดิม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของรายวิชาที่ใช้สอบในแต่ละสนาม และเน้นให้นักเรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ไม่อาศัยการท่องจำเพียงอย่างเดียว โดยคะแนน TGAT จะเป็นคะแนนส่วนสำคัญในการยื่นสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS ของแต่ละปี
![](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/Jan1-2-1024x536.jpg)
รวมสิ่งที่ต้องรู้ TGAT สอบอะไรบ้าง
TGAT สอบอะไรบ้าง? เนื่องด้วยข้อสอบ TGAT เป็นการปรับพัฒนาต่อยอดจากข้อสอบ GAT แบบเดิม จึงมีการปรับเพิ่มการสอบเป็น 3 ส่วน คือ การสื่อสารภาษาอังกฤษ การคิดอย่างมีเหตุผล และข้อสอบที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง สมรรถนะการทำงานในอนาคต
โดย TGAT ส่วนที่ 1 จะเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษทั้งหมด จะเน้นในเรื่องการสื่อสาร และการใช้ชีวิตประจำวัน และส่วน TGAT ที่ 2-3 จะขึ้นอยู่กับเรา ว่าจะเลือกข้อสอบ TGAT เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย
ไปดูแบบเจาะลึกกันว่า แต่ละส่วนมีเนื้อหาข้อสอบอย่างไร
*สามารถดูตัวอย่างข้อสอบได้ที่ TGAT Blueprint
![](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/banner-01-1024x536-2.jpg)
Part 1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ
การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication) เป็นพาร์ทการสอบ TGAT ที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวัน มีความแตกต่างจาก GAT ภาษาอังกฤษแบบเดิม ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก 100 คะแนน ระยะเวลาในการทำข้อสอบ 60 นาที มีโครงสร้างเนื้อหาที่ต้องสอบได้แก่
- ทักษะการพูด ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- การถาม-ตอบ 10 ข้อ
- เติมบทสนทนาแบบสั้น 10 ข้อ
- เติมบทสนทนาแบบยาว 10 ข้อ
- ทักษะการอ่าน ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- เติมข้อความเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ 15 ข้อ
- อ่านเพื่อจับใจความ 15 ข้อ
Part 2 การคิดอย่างมีเหตุผล
การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) เป็นการสอบที่เน้นการเข้าใจ วิพากษ์ข้อมูลข่าวสาร ใช้เหตุผลเชิงปริมาณ และคิดอย่างมีตรรกะ มีความคล้ายข้อสอบ GAT เชื่อมโยงแบบเดิม แต่ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก คะแนนเต็ม 100 คะแนน ระยะเวลาในการทำข้อสอบ 60 นาที มีโครงสร้างเนื้อหาที่ต้องสอบ ดังนี้
- ความสามารถทางภาษา จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- การสื่อความหมาย
- การใช้ภาษา
- การอ่าน
- การเข้าใจภาษา
- ความสามารถทางตัวเลข จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- อนุกรมมิติ
- การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ
- ความเพียงพอของข้อมูล
- โจทย์ปัญหา
- ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- แบบพับกล่อง
- แบบหาภาพต่าง
- แบบหมุนภาพสามมิติ
- แบบประกอบภาพ
- ความสามารถทางเหตุผล จำนวน 20 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- อนุกรมภาพ
- อุปมาอุปไมยภาพ
- สรุปความ
- วิเคราะห์ข้อความ
Part 3 สมรรถนะการทำงาน
สมรรถนะการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competencies) เป็นพาร์ทการสอบ TGAT ที่เน้นวิเคราะห์ข้อสอบ โดยต้องทำความเข้าใจความต้องการของโจทย์ และเข้าใจวิธีการตอบคำถาม ซึ่งทุกคำตอบจะมีคะแนนที่แตกต่างกันออกไป
โดยรูปแบบข้อสอบเป็นปรนัย 4 ตัวเลือก ทุกคำตอบจะมีคะแนนอยู่ที่ระหว่าง 0 – 1 คะแนน ดังนั้น การตอบคำถามจึงมี 2 แบบ คือ เลือกตอบตัวเลือกเดียว และเลือกตอบหลายตัวเลือก มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีระยะเวลาที่ใช้สอบ 60 นาที โดยโครงสร้างข้อสอบ มีดังต่อไปนี้
- การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- การคิดเชิงวิเคราะห์
- การแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ
- ความคิดเชิงนวัตกรรม
- การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- การระบุปัญหา
- การแสวงหาทางออก
- การนำทางออกไปแก้ปัญหา
- การประเมินทางออกเพื่อการพัฒนาปรับปรุง
- การบริหารจัดการอารมณ์ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- ความตระหนักรู้ตนเอง
- การควบคุมอารมณ์และบุคลิกภาพ
- ความเข้าใจผู้อื่น
- การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- การมุ่งเน้นการบริการสังคม
- จิตสำนึกและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
- การสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น
![](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/Jan1-3-1024x536.jpg)
ใครบ้างที่สามารถสอบ TGAT ได้
หลายคนอาจสงสัยว่า สามารถใช้คะแนน TGAT เข้ามหาลัยไหนได้บ้าง โดยการสอบ TGAT นั้นเป็นการสอบที่สำคัญ คะแนน TGAT คือ คะแนนหลักที่ใช้ยื่นสมัครผ่านระบบ TCAS ได้ทุกรอบ ทั้งรอบแฟ้มสะสมผลงาน รอบโควตา และรอบแอดมิดชัน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้คะแนน TGAT ในการพิจารณาคัดเลือก โดยแต่ละคณะจะใช้สัดส่วนคะแนนมากน้อยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถสอบ TGAT ได้จะต้องเป็นนักเรียนที่อยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งจะไม่อนุญาตให้น้องๆ มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 5 เข้าสอบ
รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ TGAT
สำหรับใครที่มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TGAT สามารถดูได้ที่นี่เลย
TGAT สามารถเลือกภาษาที่จะสอบได้
ระบบการสอบ TGAT นั้นมีการเปลี่ยนระบบบางส่วนเพื่อให้รองรับนักเรียนนอกที่สนใจในคณะภาคสามัญในม.ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมา รวมไปถึงมอบทางเลือกให้กับนักเรียนไทยที่จบการศึกษานอกประเทศ หรือนักเรียนอินเตอร์ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน โดยผู้เข้าสอบนั้นสามารถขอข้อสอบที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษมาแล้วได้ โดยผู้สมัครสามารถเลือกสอบได้ตามความสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสอบด้วยกระดาษ (PBT) โดยมีโรงเรียนต่างๆ เป็นสนามสอบ หรือการเลือกสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (CBT) โดยมีมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นสนามสอบ
คะแนน TGAT อยู่ได้กี่ปี ?
คะแนน TGAT จะมีอายุการใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น หากเป็นเด็กซิ่ว ก็ไม่สามารถใช้คะแนน TGAT เก่าได้ ต้องสอบใหม่ทุกปี เพื่อให้เป็นมาตรฐานไม่ให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบเนื่องจากข้อสอบ TGAT ในแต่ละปีอาจจะมีความยาก หรือง่ายต่างกันได้
![TGAT สอบเมื่อไหร่ ?](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/1-4-01-1024x1024-1-1024x1024.jpg)
TGAT สอบเมื่อไหร่ ?
วันที่ในการสอบ TGAT นั้นต่างกันออกไปในแต่ละปี แต่การสมัครนั้นจะเปิดรับในช่วงเดือน พฤศจิกายน และ สอบในเดือนธันวาคมของทุกปี
สอบ TGAT เสียเงินหรือไม่ ?
การลงทะเบียน TGAT นั้นมีค่าลงทะเบียนอยู่ที่ 140 บาท
คะแนน TGAT ใช้ยื่นคะแนนรอบไหนบ้าง ?
หลังจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เปิดรับนักศึกษาในรอบรับตรงไปแล้วในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี นักเรียนจะได้สอบ TGAT เพื่อนำคะแนนไปใช้ในการยื่นคะแนนในรอบต่าง ๆ โดยในแต่ละรอบนั้นจะใช้คะแนน TGAT ในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไปตามนี้
TGAT รอบแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
ในรอบแฟ้มสะสมผลงาน ผู้เข้าสมัครจำเป็นต้องมีคะแนน TGAT เพื่อยืนยันสิทธิ์ในการสมัครเท่านั้น โดยในรอบนี้โอกาสในการถูกคัดเลือกจะไม่ตายตัวเป็นการใช้คะแนน TGAT, GPAX และผลงาน Portfolio ในการประเมิณแบบรายบุคคลเป็นหลัก
ยื่น TGAT รอบโควตา
ในรอบโควตา ของมหาวิทยาลัยเป็นการยื่นคะแนนของสมัครกับคณะใดคณะหนึ่งโดยตรง โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนดเกณฑ์พิจารณาด้วยตัวเอง ทว่าบางมหาวิทยาลัยอาจจะเลือกใช้คะแนนสอบวัดผลของตัวเองเช่น CU-TEP และ TU-GET โดยไม่ใช้ TGAT เลยก็ได้
ยื่น TGAT รอบ Admission
สำหรับรอบ Admission นั้นเป็นการยื่นคะแนน TGAT พร้อมกับการสอบส่วนกลางอื่น ๆ เช่น A-Level เป็นรอบที่เปิดรับนักศึกษาด้วยคะแนนรวมเป็นหลัก โดยจะใช้อัตราส่วนของคะแน TGAT สูงสุดถึง 50% เลยทีเดียว แต่ก็แล้วแต่คณะด้วยเช่นกัน
ยื่น TGAT รอบ Direct Admission
ปิดท้ายกันที่รอบ Direct Admission หรือการรับตรงอิสระ ที่มหาวิทยาลัยจะเปิดรับและกำหนดเกณฑ์การรับนักศึกษาได้อิสระมากขึ้น เพื่อรับเด็กที่พลาดโอกาสในการรับเข้าผ่านรอบ Admission
![](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/Jan1-4-scaled.jpg)
นอกจาก TGAT แล้ว ยังมี TPAT และ A-Level ด้วย
ในระบบ TCAS นอกจากการสอบ TGAT แล้ว ทปอ. ยังมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบอื่นๆ อีกด้วย นั่นคือ การสอบ TPAT และการสอบ A-Level
TPAT
TPAT คือ การสอบวัดความรู้ความถนัดทางวิชาชีพ (Thai Professional Aptitude Test) เน้นวัดความสามารถเชิงทักษะในสายอาชีพต่างๆ เป็นข้อสอบที่ปรับพัฒนามาจากข้อสอบ PAT แบบเดิม มีคะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน และปรับวิชาสอบเหลือเพียง 5 วิชา ได้แก่
- TPAT1 ความถนัดวิชาเฉพาะแพทย์ (วิชาเฉพาะ กสพท.)
- TPAT2 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
- TPAT3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
- TPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
- TPAT5 ความถนัดทางครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์
A Level หรือ Applied Knowledge
A-Level คือ การสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ เน้นการนำความรู้เชิงวิชาการที่เรียนในหลักสูตรไปประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นข้อสอบที่ปรับมาจากข้อสอบวิชาสามัญแบบเดิม แต่ละวิชาจะมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมีวิชาหลักให้เลือกสอบทั้งหมด 9 วิชาหลัก ได้แก่
- คณิตศาสตร์ประยุกต์ แบ่งออกเป็น
- คณิตศาสตร์พื้นฐาน
- คณิตศาสตร์เพิ่มเติม
- วิทยาศาสตร์ประยุกต์
- ฟิสิกส์
- เคมี
- ชีววิทยา
- สังคมศึกษา
- ภาษาไทย
- ภาษาอังกฤษ
- ภาษาต่างประเทศ ซึ่งจะมีให้เลือกจำนวน 7 ภาษา ในการสอบสามารถเลือกได้เพียงแค่วิชาเดียว เพราะทุกวิชา สอบในวันและเวลาเดียวกัน โดยมีดังนี้
- ฝรั่งเศส
- เยอรมัน
- ญี่ปุ่น
- เกาหลี
- จีน
- บาลี
- สเปน
รีวิวเรียน TGAT ที่ ENCONCEPT
หากน้องๆ ต้องการแรงบันดาลใจในการฮึดสู้เพื่อเตรียมตัวสอบ TGAT ลองดูตัวอย่างจากรุ่นพี่ที่ได้คะแนน TGAT สูงๆ ดูสิ มาลองแอบส่องกันซิว่าคนเรียนเก่งๆ อย่างรุ่นพี่เขาเตรียมตัวกันอย่างไร
![](https://enconcept.com/wp-content/uploads/2022/10/Jan1-5-1024x536.jpg)
จากการที่ทปอ. มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงทำให้คะแนนสอบ TGAT กลายเป็นคะแนนสำคัญส่วนหนึ่งในการยื่นสมัครผ่านระบบ TCAS ทุกรอบ ซึ่ง TGAT คือ การสอบเพื่อวัดความถนัดทั่วไป มาแทนที่การสอบ GAT แบบเดิม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของรายวิชาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่มาแทนการสอบแบบเก่า เช่น การสอบ TPAT มาแทนการสอบ PAT และการสอบ A-Level มาแทนการสอบวิชาสามัญ เป็นต้น และสำหรับน้องๆ คนไหนที่กำลังเตรียมสอบ TGAT ต้องการทบทวนความรู้และเสริมทักษะให้แน่น ก็สามารถเลือกคอร์สเรียนออนไลน์ตะลุยโจทย์ TCAS Admission TGAT & A-Level ของ ENCONCEPT ที่จะช่วยให้น้องๆ เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยเนื้อหาคุณภาพที่ครบครัน รับรองเลยว่าน้องๆ จะได้เทคนิคในการทำข้อสอบ TGAT และข้อสอบ A-Level สามารถทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว และทันกับเวลาสอบที่จำกัดอย่างแน่นอน
เรียน TGAT ที่ ENCONCEPT คอร์สไหนดี ?
คอร์ส Pre TCAS Admission อังกฤษ
คอร์สที่จะเน้นทวน Grammar สำคัญที่ต้องรู้ก่อนสอบใน 25 ชั่วโมง
เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่มีความรู้ ความเข้าใจใน Grammar มีพื้นฐานแล้ว แต่ต้องการทบทวน และรวบรวมความรู้ Grammar ที่กระจัดกระจาย มองไม่เห็นเป็นภาพเดียว
คอร์ส TCAS Admission (TGAT, A-Level) อังกฤษ
คอร์สตะลุยโจทย์ TCAS Admission (TGAT, A-Level) อังกฤษ
คอร์สสั้น ๆ ที่อยากแนะนำให้น้อง ๆ ลงเรียนก่อนสอบ จะมีทั้งข้อสอบ TGAT, A-Level ภาษาอังกฤษปีล่าสุด เน้นฝึกทำโจทย์ให้ทันและถูกต้อง สอนโดยครูพี่หมอเต้ที่ได้ GAT ENG 150 เต็ม 9 วิชาสามัญ อังกฤษ 97.5 คะแนน รับรองว่ามีเทคนิคดี ๆ ที่จะทำให้ได้คะแนนเต็มพร้อมทำทันเวลาแน่นอน
นอกจาก 3 คอร์สนี้แล้ว Enconcept ยังมีคอร์สอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมพี่โค้ชที่จะคอยตอบคำถามวิชาการ, วางแผนการเรียน, คอยให้ความช่วยเหลือตลอดการเรียน สนใจสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Enconcept ทุกช่องทาง