แปลศัพท์ไม่ออก ทำยังไง? รวมวิธีเอาตัวรอดในห้องสอบเข้าเตรียมอุดม อังกฤษ

การแปลศัพท์ไม่ออกในข้อสอบเข้าเตรียมอุดม ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้น้อง ๆ สอบไม่ติดเสมอไป! มีเทคนิคหลายวิธีที่ช่วยให้น้อง ๆ ทำคะแนนได้แม้จะไม่เข้าใจคำศัพท์ทุกคำ การเดาความหมายจากบริบทของประโยคเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลดี หากไม่สามารถแปลคำศัพท์ได้ทันที ลองพิจารณาคำอื่นๆ ในประโยคที่สามารถช่วยให้เดาความหมายได้ เช่น พยายามมองหาคำที่รู้จักในประโยค หรือใช้เหตุการณ์ในประโยคเพื่อช่วยในการทำนายความหมายของคำศัพท์นั้นๆ นอกจากนี้ การฝึกฝนกับข้อสอบตัวอย่างและการเรียนรู้คำศัพท์ในรูปแบบต่างๆ จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้นในการทำข้อสอบ

เทคนิคเอาตัวรอดในห้องสอบเตรียมอุดม

การสอบเข้าเตรียมอุดมสามารถเป็นเรื่องท้าทาย แต่หากมีเทคนิคที่ดี ก็สามารถเอาตัวรอดได้ง่ายขึ้น! นี่คือเทคนิคที่ช่วยให้สามารถทำคะแนนได้ดีในห้องสอบ

1.การเดาคำศัพท์จากบริบทในประโยค

หากเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้จักในข้อสอบ ไม่ต้องตกใจ!น้อง ๆ สามารถใช้บริบทในประโยคเพื่อเดาความหมายของคำเหล่านั้นได้ ตัวอย่างเช่น หากเจอประโยค “The doctor prescribed a ______ for the patient’s illness,” โดยที่ไม่รู้จักคำว่า “prescribed,” แต่สามารถเดาได้จากบริบทที่เกี่ยวกับการรักษาโรคว่า คำที่ขาดอาจจะเป็น “medicine” หรือ “treatment” การใช้บริบทแบบนี้ช่วยให้สามารถเลือกคำที่เหมาะสมได้แม้ไม่รู้จักทุกคำ!

2.การรู้จัก Prefix / Suffix / Root Word

การรู้จัก Prefix (คำหน้าต่อท้าย), Suffix (คำต่อท้าย) และ Root Word (รากศัพท์) สามารถช่วยให้เข้าใจคำศัพท์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ง่ายขึ้น เช่น คำว่า “disagree” อาจจะไม่รู้จักทั้งหมด แต่ถ้ารู้จัก Prefix “dis-” ซึ่งมักแปลว่า “ไม่” และ Root Word “agree” ซึ่งหมายถึง “เห็นด้วย” ก็จะรู้ทันทีว่า “disagree” หมายถึง “ไม่เห็นด้วย” การรู้จักคำนำหน้าและคำต่อท้ายทำให้สามารถคาดเดาความหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

1. Prefix ที่ควรรู้

Prefix คือส่วนของคำที่อยู่ข้างหน้ารากคำ (Root Word) เพื่อเปลี่ยนความหมายของคำ

De-: reduce, from, reverse

• Example: Decrease (ลดลง), Destruction (การทำลาย)

Dis-: not, opposite, reverse, or away

• Example: Disagree (ไม่เห็นด้วย), Disconnect (การหายขาดการติดต่อ)

Ex-: out of, before

• Example: Exhale (หายใจออก), Ex-girlfriend (แฟนเก่า)

Fore-: before, in front of

• Example: Foresee (เล็งเห็น), Forehead (หน้าผาก)

In-: not, without

• Example: Invisible (มองไม่เห็น), Incorrect (ไม่ถูกต้อง)

Im-: not, without

• Example: Impossible (เป็นไปไม่ได้), Impatient (ไม่อดทน)

Mis-:  wrong, incorrect

• Example: Mislead (ทำให้เข้าใจผิด), Misunderstanding (เข้าใจผิด)

Pre-: before

• Example: Preschool (ก่อนเข้าโรงเรียน), Prediction (การทำนาย)

Pro-: before, progress

• Example: Produce (ผลิต), Progress (ก้าวหน้า)

Re-: again, reverse

• Example: Reappear (ปรากฏอีกครั้ง), Revise (แก้ไขใหม่)

Sub-: under, less than

• Example: Submarine (เรือดำน้ำ), Substandard (ต่ำกว่ามาตรฐาน)

Trans-: across, change

• Example: Transfer (โยกย้าย), Transform (แปลง)

Tri-: three

• Example: Triangle (สามเหลี่ยม), Triathlon (ไตรกีฬา)

Un-: opposite, against, not

• Example: Unable (ไม่สามารถ), Unequal (ไม่เท่าเทียมกัน)

2. Suffix ที่ควรรู้

Suffix คือส่วนของคำที่อยู่ข้างหลังรากคำ (Root Word) ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนประเภทของคำ เช่น จากคำนามเป็นคำกริยา หรือคำคุณศัพท์

Noun Suffixes

-acy: state, quality

• Example: accuracy (ความเที่ยงตรง), privacy (ความเป็นส่วนตัว), lunacy (ความบ้าคลั่ง)

-al: action, process

• Example: criminal (อาชญากร), survival (การรอดชีวิต), removal (การเอาออก)

-an: person

• Example: American (ชาวอเมริกัน), African (ชาวแอฟริกัน)

-ance / -ence: state, quality

• Example: entrance (ทางเข้า), nuisance (ความรำคาญ), tolerance (ความอดทน)

-sion / -tion: state

• Example: tension (ความตึงเครียด), cohesion (การติดต่อกัน), ambition (ความทะเยอทะยาน)

Verb Suffixes

-ate: become

• Example: collaborate (ร่วมมือ), participate (เข้าร่วม), stimulate (กระตุ้น)

-en: become

• Example: sharpen (ทำให้คม), strengthen (เสริมความแข็งแรง), widen (ทำให้กว้างขึ้น)

-ify / -fy: make, become

• Example: justify (ให้เหตุผล), simplify (ทำให้ง่ายขึ้น), magnify (ขยาย)

–ise / -ize: become

• Example: publicise (เผยแพร่), hypnotise (สะกดจิต), visualize (ทำให้เห็นภาพ), realize (ตระหนัก)

Adjective Suffixes

-able / -ible: capable

• Example: fallible (ผิดพลาดได้), incredible (ไม่น่าเชื่อ), audible (ได้ยิน)

-al: form, character

• Example: thermal (เกี่ยวกับความร้อน), herbal (เกี่ยวกับสมุนไพร), radical (เกี่ยวกับราก), fiscal (เกี่ยวกับการเงิน)

-ant: character

• Example: dominant (เด่น), ignorant (โง่, ไม่รับรู้)

-en: made of

• Example: golden (ทำด้วยทอง), wooden (ทำจากไม้)

–ful: notable

• Example: handful (เต็มกำมือ), useful (มีประโยชน์)

3. Root Word (รากศัพท์) ที่ควรรู้

Root Word คือคำพื้นฐานที่ไม่สามารถแยกออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ได้อีก และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคำอื่น ๆ

Here is a translation of the provided examples into Thai:

aqua (water)

• Example: aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ), aqueduct (ท่อน้ำ)

aud (sound)

• Example: audio (เสียง), audible (ได้ยิน), audience (ผู้ฟัง)

auto (self)

• Example: automatic (อัตโนมัติ), autocraft (ยานยนต์), autonomous (อิสระ)

form (the shape of something)

• Example: formula (สูตร), reform (ปฏิรูป), conform (ยอมทำตาม)

gen (birth)

• Example: generation (รุ่น), genetic (พันธุกรรม)

geo (earth)

• Example: geology (ธรณีวิทยา), geography (ภูมิศาสตร์)

mal (bad)

• Example: malnutrition (ทุพโภชนาการ), malfunction (ความผิดปกติ), malice (ปองร้าย)

nym (name)

• Example: anonymous (ไม่มีชื่อ), pseudonym (นามแฝง, นามปากกา)

ped (foot)

• Example: centipede (ตะขาบ), pedestrian (คนเดินเท้า)

philo (love)

• Example: philosophy (วิชาปรัชญา), philosopher (นักปรัชญา)

แปลไม่ออกจริง ๆ แทนไปให้ข้าม หรือแปลว่า Someone / Something

หากน้อง ๆ เจอคำที่แปลไม่ออกจริง ๆ และไม่สามารถเดาคำได้จากบริบท ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปกับมันมากนัก ลองข้ามคำที่ไม่เข้าใจและเลือกคำตอบที่ดูเหมือนจะเข้ากับประโยคได้ดีที่สุด หรือหากไม่มั่นใจจริง ๆ สามารถแปลคำว่า “Someone” หรือ “Something” ในกรณีที่เป็นคำนามทั่วไปได้ เช่น หากเจอประโยค His report was accurate and well-researched. ก็อาจจะลองเดาความหมายของคำจากบริบทอื่นๆ ที่มีอยู่ เช่น คำว่า “well-researched” ที่หมายถึง “ได้รับการวิจัยอย่างดี” ซึ่งน่าจะหมายถึงการมีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่มีความแม่นยำ ดังนั้นคำว่า “accurate” น่าจะหมายถึงเป็นความหมายในเชิงบวกเช่นกัน

เตรียมอุดม สอบเข้า ต้องใช้เทคนิคตัดตัวเลือกในข้อสอบ Multiple Choice

ในข้อสอบแบบ Multiple Choice, เทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้น้อง ๆ ได้คำตอบที่ถูกต้องคือการตัดตัวเลือกที่ไม่สมเหตุสมผลออกไปก่อน เริ่มจากการมองหาตัวเลือกที่ผิดหรือไม่สอดคล้องกับบริบท เช่น ถ้าในประโยคเกี่ยวกับสุขภาพและมีคำถามเกี่ยวกับการรักษา, ตัวเลือกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือยาอาจจะถูกตัดทิ้งได้ทันที การใช้การตัดตัวเลือกจะช่วยให้น้อง ๆ สามารถเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว

การจัดการเวลาในห้องสอบ

การจัดการเวลาคือสิ่งสำคัญในการทำข้อสอบ การแบ่งเวลาสำหรับแต่ละส่วนของข้อสอบเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เช่น หากข้อสอบมีหลายส่วน และส่วนของ Reading Comprehension ใช้เวลานานกว่า ให้เริ่มจากส่วนที่ทำได้เร็วที่สุดก่อน เพื่อไม่ให้ติดอยู่กับคำถามที่ยากจนเสียเวลาไปทั้งหมด และยังเหลือเวลาในการตรวจสอบคำตอบท้ายสุด เมื่อจัดสรรเวลาได้ดีจะช่วยลดความเครียดและทำให้การทำข้อสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การใช้เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้มีโอกาสทำคะแนนได้ดีขึ้นในการสอบเข้าเตรียมอุดม อย่าลืมฝึกฝนและเตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะคะ

ที่ 1 สายวิทย์ สายศิลป์ติวสอบเข้าเตรียมอุดม เรียนที่ Enconcept