น้อง ๆ #TCAS68 พร้อมหรือยัง สำหรับ TCAS รอบ 3 รอบนี้ต่างจากรอบอื่น ๆ อย่างไร พร้อมเทคนิคเลือก 10 อันดับ คณะในฝันอย่างมั่นใจ แล้วจำเป็นไหมว่าต้องเลือกให้ครบ 10 อันดับ เรามีคำตอบ
TCAS รอบ 3 ต่างจากรอบอื่นอย่างไร มีอะไรบ้าง
สำหรับ TCAS รอบ 3 หรือที่เรียกว่า “รับตรงทั่วไป” เป็นรอบที่มีมหาวิทยาลัยในระบบ TCAS รวมถึง กสพท จะเปิดรับสมัครพร้อมกันผ่านระบบกลาง ทปอ. ผ่านเว็บไซต์ myTCAS โดยในรอบนี้จำนวนที่เปิดรับตามขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย กรณีที่รอบ 1 และ รอบ 2 ได้จำนวนนักเรียนไม่ครบ ก็จะเป็นโอกาสเปิดรับเพิ่มในรอบที่ 3 โดยในการรับสมัคร สามารถเลือกได้สูงสุด 10 อันดับ โดยไม่มีการเก็บค่าสมัคร จากเดิมที่มีการคิดค่าใช้จ่ายสูงสุด 900 บาท สำหรับเกณฑ์การสมัครในรอบ Admission ไม่ว่าจะเป็น คณะทั่วไป และ กสพท มีดังนี้
เกณฑ์รอบ Admission คณะทั่วไป
เกณฑ์รอบ Admission คณะทั่วไป จำนวนการรับสมัครจะแตกต่างกันตามแต่ละมหาวิทยาลัยและคณะ โดยพิจารณาจากคะแนน GPAX (6 เทอม), คะแนน TGAT/TPAT, คะแนน A-Level หรือคะแนนสอบอื่น ๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
เกณฑ์รอบ Admission กสพท
เกณฑ์รอบ Admission ของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) ประกอบด้วยคณะแพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์, เภสัชศาสตร์ และ สัตวแพทยศาสตร์ เกณฑ์ในการคัดเลือกจะใช้คะแนน TPAT1 30% และ A-Level 70% (ฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ รวมกัน 28%, คณิตศาสตร์1 14%, ภาษาอังกฤษ 14%, ภาษาไทย 7%, สังคมศึกษา 7%)
เทคนิคการเลือก 10 อันดับ TCAS รอบ 3
มาถึงแนวทางเลือก 10 อันดับ ของเด็ก #TCAS68 เลือกจากอะไรบ้าง จำเป็นไหมที่จะต้องเลือกคณะให้ครบทั้ง 10 อันดับบทความนี้มีคำตอบ
1. เลือกคณะในฝัน
2 อันดับแรก ให้เลือกคณะที่น้อง ๆ ต้องการเรียนมากที่สุด และเป็นคณะที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก แน่นอนว่า บางคณะอาจมีการแข่งขันสูง โอกาสสอบติดอาจจะน้อย แต่การเลือกคณะในฝันไว้ในลิสต์ 2 อันดับแรก จะช่วยให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสเลือกสิ่งที่วาดฝันเอาไว้
2. เลือกคณะที่มีโอกาสสอบติด 40-60%
อันดับที่ 3 และ 4 ให้เลือกคณะที่มีคะแนนขั้นต่ำกว่าคะแนนของเราประมาณ 40-60% เป็นการเพิ่มโอกาส รวมถึงวิเคราะห์ว่าคะแนนของเราอยู่ในระดับไหน มีโอกาสสอบติดคณะไหนบ้าง จำนวนผู้สมัครและจำนวนรับมีจำนวนมากน้อยขนาดไหน ยิ่งคณะที่มีคู่แข่งไม่เยอะ โอกาสสอบติดก็จะสูงขึ้น
3. เลือกคณะที่มีโอกาสสอบติด 70-80%
อันดับที่ 5 และ 6 ให้เลือกคณะที่มั่นใจว่ามีโอกาสสอบติด 70-80% เพื่อเป็นคณะสำรอง เผื่อไว้ในกรณีที่คณะอื่น ๆ ไม่ติด
4. เลือกคณะที่มีโอกาสสอบติด 80% ขึ้นไป
4 อันดับสุดท้ายให้เลือกจากคณะที่น้อง ๆ มั่นใจว่าสามารถสอบติดได้แน่นอน ซึ่งอาจจะเลือกจากคณะที่มีการรับนักเรียนมาก การแข่งขันไม่สูงนัก เพื่อให้น้อง ๆ มั่นใจได้ว่าจะมีที่เรียนแน่นอน
เลือก 10 อันดับ TCAS รอบ 3 เลือกอย่างไรได้บ้าง
- เลือกคณะเดียวกัน แต่ต่างสถาบัน : การจัด 10 อันดับคณะที่ต้องการ น้อง ๆ สามารถยื่นคณะเดียวกัน แต่คนละสถาบันได้
- เลือกคณะเดียวกันทุกอันดับ แต่ต่างคณะ : น้อง ๆ สามารถเลือกยื่นสถาบันเดียวกัน จำนวน 10 อันดับ แต่ต่างคณะได้ ยกตัวอย่างเช่น อันดับ 1 เลือกคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับที่ 2 เลือกคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น
- ยื่น กสพท เท่านั้น : สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเป็นหมอ การเลือกยื่นเฉพาะกลุ่มสถาบันแพทย์ กสพท จำนวน 10 อันดับ สามารถทำได้
- เลือกยื่นได้ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐบาล และ เอกชน
จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องเลือกคณะให้ครบทั้ง 10 อันดับ
ไม่จำเป็นต้องเลือกครบทั้ง 10 อันดับ ซึ่งข้อดีของการเลือกคณะให้ครบทั้ง 10 อันดับ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้น้อง ๆ ได้มีที่เรียนมากขึ้น หากไม่ได้รับการตอบรับในอันดับต้น ๆ อาจมีโอกาสได้ที่อันดับรองลงมา
เลือกคณะแบบนี้ อย่าหาทำ
การเลือกอันดับใน TCAS รอบ 3 เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อให้น้อง ๆ สามารถเลือกอันดับคณะที่ตัวเองต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้ อย่าหาทำโดยเด็ดขาด
1. ไม่ได้ดูคุณสมบัติผู้สมัคร
น้อง ๆ ต้องดูเกณฑ์คุณสมบัติตามคณะที่เปิดรับด้วยนะว่า ตรงตามที่คณะ/สาขากำหนดหรือไม่ เพราะการเลือกแบบไม่ได้ดูคุณสมบัติ โอกาสที่จะถูกปัดตกก็มีสูง
2. ไม่ได้คำนวณคะแนน
การที่น้อง ๆ ไม่ได้เช็กคะแนนมาก่อน แล้วเลือกยื่นเลย โอกาสที่จะสอบไม่ติดมีสูงมาก เพราะในแต่ละปีการศึกษา สถาบันต่าง ๆ จะมีการปล่อยคะแนนสูง-ต่ำ ของผู้ที่สอบติดมาให้เราได้ประเมินตัวเองว่าคะแนนที่เรามีอยู่ เพียงพอสำหรับการใช้ยื่นหรือไม่
3. ไม่มีการเรียงอันดับ ตามที่อยากเรียน
การเลือกคณะที่อยากเรียน ควรเรียงลำดับจากมากไปน้อย เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสติดคณะ/สาขาที่ต้องการมากที่สุด ไม่แนะนำให้เลือกคณะที่อยากเรียนมากที่สุดไว้อันดับท้าย เนื่องจากในรอบ Admission ระบบจะประกาศผลการสอบติดเพียง 1 อันดับเท่านั้น ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดที่เราเลือก
สรุปการเลือก 10 อันดับ 2 อันดับแรก ให้น้อง ๆ เลือกคณะในฝันที่นักเรียนต้องการมากที่สุด ส่วน 2 อันดับถัดมาให้เลือกคณะจากความสนใจและมีโอกาสสอบติด 40-60% ในอันดับที่ 5 กับ 6 ให้เลือกคณะที่นักเรียนมีโอกาสสอบติด 70-80% และสุดท้าย เลือกจากคณะที่มั่นใจว่าสอบติดแน่นอน มีโอกาสสอบติด 80% ขึ้นไป ทั้งนี้ในการเลือก 10 อันดับ ต้องเรียงลำดับจากที่ชอบ ที่สนใจ และอย่าลืมเช็กคะแนนขั้นต่ำ เช็กคุณสมบัติ รวมถึงศักยภาพของตัวเองด้วยนะ
หลังจากที่เราได้ทราบถึงเทคนิคดี ๆ ในการเลือกคณะที่ใช่ ในแบบที่น้อง ๆ ชอบไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาในการเตรียมตัวสอบแล้วล่ะ ต้องบอกว่าทุกพาร์ทมีความสำคัญ โดยเฉพาะ TGAT1 การสื่อสารอังกฤษ เป็นพาร์ทที่ค่าน้ำหนักคะแนนค่อนข้างเยอะ ยิ่งน้องทำคะแนนสอบในพาร์ทนี้ได้มากเท่าไหร่ โอกาสในการเข้าคณะในฝันที่เราคาดหวังไว้ก็ยิ่งมีสูงตามไปด้วย เพิ่มทักษะภาษาอังกฤษพร้อมทุกสนามสอบทั้ง A-Level และ TGAT Enconcept มีหลากหลายคอร์ส ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น
TGAT Insight (TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ)
TGAT คอร์ส ถอดแบบเป๊ะจาก Blueprint + ข้อสอบจริง TGAT ครั้งล่าสุด ครอบคลุมครบทุกเนื้อหา เน้นจุดออกข้อสอบบ่อย ! เตรียมพร้อมด้วยเทคนิคและคำศัพท์ทำคะแนน
TCAS Admission อังกฤษ : TGAT&A-Level
คอร์ส TCAS ภาษาอังกฤษ ที่จะสรุปเนื้อหาสำคัญที่ออกบ่อย พร้อมฝึกเทคนิคทำโจทย์จริงจากสนาม Admission ทุกสนาม ทั้ง GAT, O-NET, 9 วิชาสามัญ โดยเน้นฝึกจากง่ายไปยาก
A-Level อังกฤษ
คอร์สนี้น้อง ๆ จะได้ทบทวนเนื้อหา Grammar ที่พบบ่อยในข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น Subject-Verb Agreement, Adjective/Noun Clause และ Collocation รวมถึง Interesting Idioms ที่มักจะเจอในข้อสอบประเภท Conversation
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจคอร์สเรียน สามารถสอบถามพี่ ๆ ที่ Enconcept ได้เลยที่
- Call Center : 0804343838
- Line : https://lin.ee/5YDMROv
- Inbox Facebook : m.me/Enconcept