เรียน TGAT ที่ไหนดี? พร้อมบอกเทคนิคการบริหารเวลาสำหรับการสอบ TGAT

เมื่อพูดถึงการสอบ TGAT (Thai General Aptitude Test) ที่เป็นก้าวแรกสำคัญในการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย หลายคนมักสงสัยว่าจะเตรียมตัวอย่างไร และที่สำคัญจะ “เรียน TGAT  ที่ไหนดี” เพื่อให้ได้คะแนนเต็ม 300 อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ก่อนจะตอบคำถามนั้น การบริหารเวลาเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะการทำข้อสอบให้ทันเวลาและครบทุกข้อถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำคะแนนสูง เพื่อช่วยน้อง ๆ จัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพและพร้อมเต็มที่สำหรับการสอบ TGAT เรามีเทคนิคสำคัญมาแบ่งปันในแต่ละพาร์ต รวมถึงเคล็ดลับวิธีการจัดการเวลาแบบมือโปรเพื่อพิชิต TGAT มาฝาก

วิธีการบริหารเวลาในช่วงติวสอบ TGAT 

ข้อสอบ TGAT มีคะแนนเต็ม 300 คะแนน โดยแบ่งออกเป็น 3 พาร์ต ซึ่งแต่ละพาร์ตมีลักษณะเฉพาะและต้องใช้กลยุทธ์ในการจัดการเวลา:

• • TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ: ข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 60 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที เฉลี่ยข้อละ 1 นาที

• • TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล: ข้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือก จำนวน 80 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที เฉลี่ยข้อละ 45 วินาที

• • TGAT3 สมรรถนะการทำงาน: ข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 60 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที เฉลี่ยข้อละ 1 นาที

ข้อควรรู้: หลายคนพลาดเพราะจัดสรรเวลาไม่ดี ทำให้เหลือเวลาไม่พอแม้กระทั่งอ่านโจทย์! เพื่อช่วยน้องๆ จัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพและพร้อมเต็มที่สำหรับการสอบ TGAT เรามีเทคนิคสำคัญมาแบ่งปันในแต่ละพาร์ต รวมถึงเคล็ดลับการจัดลำดับความสำคัญเพื่อเพิ่มคะแนนได้สูงสุด

พร้อมหรือยัง? มาดูวิธีการจัดการเวลาแบบมือโปรเพื่อพิชิต TGAT กันเลย!

1. เลือก Part ที่สำคัญก่อน

เริ่มต้นจากพาร์ตที่คะแนนมีผลต่อการยื่นคณะของเรามากที่สุด เพราะบางคณะมีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำในพาร์ตสำคัญ เช่น ถ้าคณะให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ ควรเริ่มที่ TGAT1 เพื่อให้มั่นใจว่าทำได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด จากนั้นค่อยไล่ไปยังพาร์ตที่ง่ายกว่าและเก็บคะแนนเพิ่มในพาร์ตอื่น ๆ

หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกพาร์ตไหนก่อน ให้ตรวจสอบเกณฑ์การรับสมัครของคณะที่ต้องการสมัคร แต่ถ้าหาคำตอบไม่ได้ ลองใช้แนวทางนี้:

จะเริ่มทำพาร์ตไหนก่อน ? ลองประเมินจากตัวเอง

1. 1. พาร์ตที่มั่นใจและง่ายที่สุดสำหรับตัวเอง
      เช่น TGAT3 สมรรถนะการทำงาน ที่มักจะเข้าใจง่ายและเก็บคะแนนได้เร็ว การเริ่มต้นที่พาร์ตนี้ช่วยเรียกความมั่นใจและสร้างกำลังใจในการทำข้อสอบที่เหลือ

1. 1. หลีกเลี่ยงทำพาร์ตตอนที่เบลอหรือหมดแรง
      เช่น ถ้ารู้ว่าพาร์ต TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล ใช้พลังสมองเยอะ เพราะมีทั้งการอ่านและคำนวณ อาจหลีกเลี่ยงทำพาร์ตนี้ตอนที่รู้สึกง่วงหรือเบลอ

1. 1. พาร์ตที่ถนัดรองลงมา
      หลังจากทำพาร์ตแรกเสร็จ ควรเลือกพาร์ตที่ใช้ความถนัดเฉพาะ เช่น TGAT1 ภาษาอังกฤษ หากสติเริ่มมาและหายประหม่าแล้ว จะช่วยให้ทำคะแนนได้ดีและมีสมาธิมากขึ้น

2. ตัดสินใจให้เด็ดขาด

ถ้าอ่านโจทย์แล้วไม่เข้าใจ หรือคิดว่าใช้เวลานานเกินไปให้ข้ามไปทำข้อที่ถนัดและมั่นใจก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาทำใหม่ทีหลัง การเสียเวลาตัดสินใจในข้อที่ทำไม่ได้อาจทำให้เราเสียเวลาสะสมโดยไม่รู้ตัว เช่น เสีย 5 วินาที 10 ครั้ง ก็เท่ากับ 50 วินาทีแล้ว

3. แบ่งเวลาให้เหมาะสมในแต่ละพาร์ต

ทุกคนมีจุดเด่นและจุดอ่อนต่างกัน ลองซ้อมทำข้อสอบ TGAT แบบจับเวลาจริงเพื่อค้นหาวิธีการจัดลำดับที่เหมาะกับตัวเองที่สุด! พาร์ตไหนที่ใช้เวลามากที่สุด ควรทำก่อน และควรเหลือเวลาอย่างน้อยพาร์ตละ 10 นาที เพื่อทบทวนข้อที่สงสัยหรือผิดพลาด  

4.อ่านทีละพารากราฟ เชื่อมโยงเนื้อหา

หลายคนอ่านโจทย์ยาว ๆ แล้วพอถึงบรรทัดสุดท้ายลืมเนื้อหาบรรทัดแรก! วิธีแก้คือ แบ่งอ่านทีละพารากราฟ และจดประเด็นสำคัญไว้ เช่น เขียนคำสำคัญหรือประเด็นหลัก จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมและเข้าใจโจทย์ได้ง่ายขึ้น  

5. ฝึกฝนการฝนคำตอบ

เรื่องเล็ก ๆ อย่างการฝนคำตอบ ก็อาจทำให้เสียเวลามากโดยไม่รู้ตัว ไม่จำเป็นต้องฝนให้กลมเป๊ะหรือพอดีขอบแบบปราณีตเกินไป แค่ฝนให้ถูกต้อง ชัดเจน และใช้เวลาน้อยที่สุด ฝึกไว้ตั้งแต่ซ้อมจะช่วยลดความกังวลได้  

เทคนิคเหล่านี้ไม่ได้แค่ช่วยทำข้อสอบได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญและมั่นใจในการทำข้อสอบมากขึ้นด้วย ลองนำไปปรับใช้ แล้วพี่เชื่อว่าน้อง ๆ จะทำ TGAT ได้ทันเวลาและได้คะแนนตามที่ตั้งใจ! 

ลองประเมินด้วยข้อสอบ TGAT 1

ก่อนจะลงสนามสอบจริง น้อง ๆ เคยสงสัยไหมว่า ตัวเองพร้อมแค่ไหนกับการสอบ TGAT? หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยวัดระดับความพร้อมได้คือ การฝึกทำข้อสอบจริง การทำข้อสอบจำลองจะไม่เพียงช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจรูปแบบข้อสอบ แต่ยังช่วยประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน และพัฒนาทักษะการบริหารเวลาในการทำข้อสอบแต่ละพาร์ตอีกด้วย

ลองมาดูกันว่า การฝึกข้อสอบจริงช่วยเราได้อย่างไร และทำไมถึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมสอบ TGAT ที่พี่โดมได้นำแชร์ที่นี่ 

เรียน TGAT ที่ไหนดี? ติวสอบ TGAT ที่เดียวกับรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ 

การเรียนที่เดียวกับที่ ๆ รุ่นพี่ที่ได้คะแนนสอบเยอะ สอบติดคณะดัง เป็นทั้งการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับน้อง ๆ ได้ว่าเราเองก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน และนี่คือรุ่นพี่ Enconcept ที่สอบติดคณะดัง