วันนี้ว่ากันด้วยเรื่องของ คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ผิดบ่อย ในชีวิตประจำวัน และเรียกได้ว่าเป็น คำฮิตติดปาก ที่บางที ถ้าเราพูดกับฝรั่ง เขาอาจจะงงก็ได้นะ ว่าเราพูดอะไร
20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มักใช้ผิดบ่อยในชีวิตประจำวัน
เชื่อได้เลยว่า 20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ คงมีคุ้น ๆ กันบ้างแหละ มาดูกันว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษคำไหน ที่คนส่วนใหญ่ใช้ผิดบ่อย พร้อมคำอธิบายความหมายที่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้น้อง ๆ สามารถพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
1. Everyday
คำว่า Everyday อาจไม่ได้แปลว่า “ทุกวัน” กล่าวคือ ถ้าน้อง ๆ เขียน everyday แบบติดกัน จะแปลว่า ปกติ, ธรรมดา แต่ถ้าเขียน every (เว้นวรรค) day จะแปลว่า ทุกวัน
2. Check bill
ถ้าเราจะเรียกพนักงานให้มาเก็บเงินค่าอาหาร ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับคำว่า Check bill ซึ่งถ้าพูดแบบนี้กับชาวต่างชาติมีงงแน่ ถ้าจะจ่ายเงิน ให้พูดว่า Check, please (แบบ American) หรือ Bill, please (แบบ British)
3. Hi-so
Hi-so คำฮิตติดปากที่มาจากคำว่า High Society ซึ่งถ้าเป็นคนไทยด้วยกันเองเป็นอันรู้กัน แต่ถ้าต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติด้วยการบอกว่า ดูดี มีระดับเราควรพูดว่า Classy ที่หมายถึง มีระดับ หรืออีกคำที่ใช้ได้ก็คือ High-class ที่แปลว่า ชั้นสูง หรือ มีคุณภาพสูง
4. Fitness
คำนี้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า Fitness หมายถึงสถานที่ออกกำลังกาย แต่จริง ๆ แล้ว คำนี้จะหมายถึง สมรรถภาพของร่างกาย คำศัพท์ที่หมายถึงสถานที่ออกกำลังกาย ต้องใช้คำว่า “Fitness center” หรือใช้คำว่า “gym”
5. In Trend
เป็นคำฮิตติดปากที่หมายถึงความทันสมัย แต่ที่ถูกต้อง ไม่ใช่คำนี้นะ คำศัพท์ที่หมายถึงความทันสมัย ต้องใช้คำว่า “Trendy” หรือ “fashionable” ก็ได้
6. Pretty
เป็นอีกหนึ่งคำฮิตติดปากเวลาเราไปตามงานอีเวนท์ที่มี ผู้หญิงสวย ๆ ยืนพรีเซนต์สินค้า หรือกำลังพูดดำเนินรายการต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า Pretty จะหมายถึง น่ารัก น่ามอง โดยคำศัพท์ที่หมายถึง ผู้หญิงสวย ๆ ที่ทำหน้าที่พรีเซนต์สินค้า จะใช้คำว่า Model
7. I never know. (ฉันไม่เคยรู้มาก่อน)
เป็นคำที่แปลได้ตรงตัวมาก แต่ไม่ใช่นะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อน เราสามารถใช้ I never knew. หรือ I didn’t know ก็ได้
8. same same
เป็นอีกคำที่แปลได้ตรงตัวมาก ซึ่งคำว่า Same จริง ๆ แล้วเป็นคำคุณศัพท์ ที่ใช้ขยายคำนาม ถ้าต้องการสื่อความหมายว่า เหมือน ๆ กัน ใช้ It’s the same จะดีกว่า
9. Eat very good.
ภาษาอังกฤษของคำว่า กินเก่ง ไม่ใช่ Eat very good. นะ แม้จะแปลตรงตัวว่า กินเก่งมาก ก็เถอะ ถ้าต้องการสื่อความหมายว่า กินเก่ง ให้ใช้ Eat like a horse.
10. Go to home
กลับบ้าน ภาษาอังกฤษใช้ Go home. จะดีกว่านะ
11. Let’s go to home.
จากข้อข้างบน กลับบ้านปกติ ก็ใช้แค่ Go home ไม่ต้องมี to เช่นเดียวกันกับคำว่า กลับบ้านกันเถอะ ใช้ Let’s go home. ไม่ต้องเติม to นะ
12. Record
คำนี้เป็นได้ทั้งคำนามและกริยา กล่าวคือ ถ้าหากจะพูดถึงคำนามที่หมายถึง สถิติ หรือ แผ่นเสียง ให้ออกเสียงว่า “เร็ค-คอร์ด” แต่ถ้าความหมายเป็นคำกริยาที่แปลว่า อัดหรือบันทึก ให้ออกเสียงว่า “รี-คอร์ด”
13. Angel กับ Angle
สองคำนี้ ระวังสับสน เนื่องจาก เขียนคล้ายกัน แถมออกเสียงใกล้เคียงกันอีกต่างหาก สำหรับคำว่า Angel (แอง- เจิล) แปลว่า นางฟ้า ส่วนคำว่า Angle (แอง-เกิ้ล) แปลว่า มุม
14. Lamp กับ Lamb
สองคำนี้ออกเสียงเหมือนกัน แต่ระวังสะกดผิด ความหมายเปลี่ยนแน่นอน Lamp จะแปลว่า โคมไฟ ส่วน Lamb คำนี้จะแปลว่า ลูกแกะ
15. Never mind
คำว่า ไม่เป็นไร ในภาษาอังกฤษ หลายคนอาจจะนึกถึงคำว่า Never mind ซึ่งความหมายจริง ๆ แปลว่า ช่างเถอะ ออกแนวไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ถ้าอยากบอกว่า ไม่เป็นไร เราสามารถพูดคำว่า It’s ok, It’s alright หรือ No problem ก็ได้
16. No have
ถ้าจะบอกว่า ไม่มี… เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ No have นะ ต้องใช้คำว่า don’t have หรือว่า have no ยกตัวอย่างเช่น I don’t have any money หรือ I have no money ที่หมายถึง ฉันไม่มีเงิน
17. I’m boring
จริงอยู่ที่คำว่า boring นั้นมันแปลว่า น่าเบื่อ แต่ถ้าใช้แบบตรง ๆ ว่า I’m boring ความหมายจะกลายเป็น ฉันน่าเบื่อ ถ้าเรากำลังจะบ่นว่า เบื่อจัง ให้ใช้ I’m bored
18. Out of order
คำนี้มักจะเห็นบ่อยตามร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วคำนี้จะหมายถึง “ชำรุด ใช้การไม่ได้” อย่างเช่น ห้องน้ำ, ตู้หยอดเหรียญ ที่ไม่สามารถใช้การได้ แต่ถ้าจะสื่อความหมายว่า สินค้าหมด ให้ใช้คำว่า “Sold out” หรือใช้สำนวน “We’re all out.” หมายถึง “สินค้าหมด” ก็ได้เช่นกัน
19. Mansion
เป็นคำศัพท์ที่คนไทยส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด เนื่องจาก Mansion หมายถึง คฤหาสน์ ไม่ใช่ หอพัก อย่างที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งถ้าเราคุยกับชาวต่างชาติว่า ฉันพักอยู่ที่แมนชั่น เขาอาจจะตะลึงไปเลยก็ได้ว่า เธอพักอยู่ในคฤหาสน์เลยเหรอ คำว่า หอพัก ที่ถูกต้องคือคำว่า Apartment หรือ Flat ใช้ได้ทั้ง 2 คำเลยนะ
20. American share
เป็นอีกคำที่เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยิน เวลาเราไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วหารค่าอาหาร ถ้าเราพูดคำว่า American share ต่อหน้าฝรั่ง อาจมีงงนะว่า แชร์อะไร แล้วทำไมต้องอเมริกัน ซึ่งการพูดว่า แชร์เท่ากัน หรือ ต่างคนต่างจ่าย ให้ใช้คำนี้นะ
- กรณีหารเท่ากัน ให้ใช้คำว่า Let’s share.
- แต่ถ้าเป็นแบบต่างคนต่างจ่าย กินแค่ไหนจ่ายแค่นั้น ให้ใช้คำว่า Let’s go Dutch.
คำศัพท์เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่าง ยังมีคำศัพท์อื่น ๆ ที่บางครั้งหลายคนอาจเข้าใจผิด ว่าใช้แบบสากล ที่จริงแล้วอาจจะใช้ได้แค่กับที่ประเทศไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การที่น้อง ๆ ได้ทำความเข้าใจและรู้จักคำศัพท์ที่อาจจะพบเจอได้บ่อย ๆ และอาจเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ความหมายที่แท้จริงอาจไม่มีเลยก็เป็นได้ และสำหรับน้อง ๆ คนไหนอยากเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษให้ได้คะแนนดี มาเรียนที่ Enconcept !! เพราะที่นี่มีคอร์สคอร์สเรียน Vocab รวมถึงคอร์ส ปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ม.ต้น อาทิ
Junior Vocab + Reading ม.ต้น
คอร์สเรียน Vocab ผ่านเทคนิคต่างๆ พร้อมทำโจทย์จากแนวข้อสอบจริง สำหรับเตรียมสอบเข้า ม.4 ภาษาอังกฤษ Junior Vocab: เรียนเทคนิคการเพิ่มคลังศัพท์ เช่น การฝึกวิเคราะห์คำศัพท์(Word Analysis) : Roots, Prefix และ Suffix ของคำ และ เทคนิคการทำโจทย์ Vocab เช่น การเดาศัพท์จากบริบท(Context Clues) และการเจาะลึกโจทย์แต่ละประเภท (Exam Analysis)
Junior Reading: เรียนเทคนิคการทำ Reading ผ่านเทคนิค เช่น การใช้ Strategic Structure ช่วยหา Main Idea หรือ เทคนิคการอ่านแบบ Skimming และ Scanning รวมไปถึงเทคนิคการตัด Choices ผิด
Ultimate Vocab + Reading ม.ปลาย
คอร์สเรียน Vocab เพิ่มศัพท์ ม.ปลาย ผ่านเทคนิคต่างๆ พร้อมทำโจทย์จากแนวข้อสอบจริง พร้อมทำแบบฝึกหัดทั้งในบทเรียน วิเคราะห์ภาพรวมโจทย์จาก Vocab Tree (แผนผังภาพรวม Vocab) Context Clues เดาศัพท์จากบริบท Word Analysis วิเคราะห์คำศัพท์ และ รู้จักกับข้อสอบ Vocab ประเภทต่าง ๆ เช่น Synonym, Antonym, Collocation, Odd One Out, Polysemy, Analogy รวมถึงเนื้อหา Phrasal Verbs และ Idioms เทคนิคการอ่าน / ทำข้อสอบประเภท Reading ด้วย Strategic Structure & Reading Strategies และ เทคนิคการทำ Conversation ด้วย ‘3S’ Strategies
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจคอร์สเรียน สามารถสอบถามพี่ ๆ ที่ Enconcept ได้เลยที่
Call Center : 0804343838
Line : https://lin.ee/5YDMROv
Inbox Facebook : m.me/Enconcept